ครบเครื่องการดูแลสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ การป้องกันโรค การเงินเพื่อสุขภาพ สำหรับวัยทำงาน

.jpg

ข่าวคราวน่าเศร้าของนักปั่นช่วงนี้มีให้เห็นอีกแล้ว ไล่มาตั้งแต่นักปั่นจักรยานชาวชิลี เจ้าของสถิติโลกในกินเนสเวิลด์เรคคอร์ด ปั่น 5 ทวีปใน 5 ปี ถูกรถกระบะชนเสียชีวิต ข่าวรถยนต์ชนนักปั่นดับ 3 ราย ล่าสุดก็ยังเจอข่าว ลุงอู๊ด วิเชียร ปิ่นเกษร นักปั่นมือเดียวที่เป็นนักกีฬาเฟสปิกเกมส์และนักกีฬาไตรกีฬาถูกรถชน

 

แล้วจะมีถนนเส้นไหนในกรุงเทพฯ ที่ปลอดภัยกับนักปั่นบ้างมั้ย? ขนาดนักปั่นที่ว่าชำนาญปั่นมาไม่รู้เท่าไหร่ ยังพลาดพลั้งถูกรถชนได้ แล้วถ้าเป็นนักปั่นมือใหม่ล่ะ จะทำยังไงดี

วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ จึงขอเสนอทางเลือกโดยนำเส้นทางปั่นจักรยานที่ช่วยเซฟเรื่องความปลอดภัยให้กับนักปั่นมือใหม่มาฝากกัน หลายแห่งมีเลนจักรยานชัดเจน น่าจะช่วยนักปั่นให้อุ่นใจได้อีกทางหนึ่ง จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาเช็กได้เลย

 

1. สนามบินสุวรรณภูมิ

ปั่นปลอดภัยที่ไบค์เลน สุวรรณภูมิ
ที่นี่มีเส้นปั่นจักรยานที่มีเลนปลอดภัยให้นักปั่นโดยเฉพาะ คือ ไม่ได้รวมอยู่ในทางหลักที่เป็นทางรถยนต์วิ่ง แต่เป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่มีเลนแยกออกมาอย่างชัดเจนแบบนี้

เส้นทางจักรยานนี้เป็นเส้นปั่นจักรยานน้องใหม่ที่ทางสนามบินสุวรรณภูมิได้ปรับปรุงเพิ่มขึ้นมา จากเดิมเป็นถนนสำหรับการตรวจตรารอบสนามบิน แต่ตอนนี้กลายเป็นเส้นทางจักรยานสีเขียวที่ใช้ชื่อว่า “Bike Lane” ขาปั่นทุกคนสามารถเข้าใช้บริการได้ฟรี บนถนนยาวกว่า 23 กิโลเมตร ที่นี่เหมาะสำหรับการปั่นชิลชิลในช่วงเช้า โดยประตูจะเปิดเวลา 06.00 น. และปิดบริการเวลา 19.00 น. (แต่จะปิดรับแลกบัตรเข้าใช้บริการเวลา 17.30 น.)

เลนจักรยานชัดเจน สุวรรณภูมิ Bike Lane แห่งนี้ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำการตรวจตราและรักษาความปลอดภัยเส้นทางจักรยานทุก ๆ 1 ชั่วโมง และหากเกิดเหตุฉุกเฉิน สามารถแจ้งที่ ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) โทร. 0 2132 4000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

2. เทียนทะเล

เทียนทะเล ปั่นชิล ๆ ไปเที่ยวทะเล ป่าโกงกาง
เส้นทางนี้อยู่ที่บางขุนเทียน-ชายทะเล สามารถเดินทางไปได้ง่าย ๆ โดยใช้ถนนพระราม 2 ขึ้นวงแหวนอุตสาหกรรมแล้วลงเลียบทางด่วน อาจจะเริ่มปั่นจากเลียบทางด่วนไปออกถนนเทียนทะเลก็ได้ ถือเป็นสวรรค์ของนักปั่นเลยทีเดียว เพราะมีเลนจักรยานให้โดยเฉพาะ และรถราไม่เยอะ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แถมบรรยากาศระหว่างทางก็สดชื่น อากาศดี ระหว่างทางมีร้านอาหารทะเลอร่อยๆ เรียงรายอยู่เยอะแยะ

ส่วนใครที่อยากปั่นวัดพลังขาก็ลองไปตามเส้นทางนี้ โดยเริ่มจากวัดปทีปพลีผลแล้วตรงไปเรื่อย ๆ จนสุดทางถนน จะเจอสามแยก ให้เลี้ยวซ้าย ปั่นตรงไปอีกประมาณสองกิโลฯ กว่า ๆ จะเจอร้านกาแฟ Coffee House เป็นจุดพักครึ่งแรก หลังจากนั้นก็ปั่นต่อครึ่งหลัง จากร้านกาแฟให้มุ่งหน้าไปยังวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ไปตามทางเรื่อย ๆ จนถึงวัด รวมระยะทางทั้งหมด 26.8 กิโลเมตร

หรือใครจะปั่นเข้าไปชมทะเลและป่าโกงกางก็ได้ แต่จะต้องตัดเข้าไปในหมู่บ้านนิดหน่อย สามารถถามทางจากชาวบ้านได้ ข้างในจะมีทางไม้ยาว ๆ ทำยื่นลงไปใกล้ทะเล

 

3. เกาะรัตนโกสินทร์

เลนจักรยานที่ปรับปรุงใหม่รอบเกาะรัตนโกสินทร์
รอบ ๆ เกาะรัตนโกสินทร์ เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่น่าสนใจและปลอดภัยระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะถนนหลายเส้นในย่านนี้ก็มีเลนจักรยานไว้รองรับนักปั่นเช่นกัน ยิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ทางการก็มีนโยบายในการปรับปรุงเลนจักรยานเหล่านี้ให้ชัดเจนและปลอดภัยมากขึ้นด้วย กับโครงการพัฒนาเส้นทางจักรยานในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์

โครงการนี้ได้ทำการปรับปรุงเส้นทางจักรยานเพิ่มเติม ให้มีความทันสมัย และสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ เช่น การปรับปรุงผิวทางจักรยานและฝาท่อระบายน้ำให้ราบเรียบเสมอกัน ตีเส้นจราจรช่องทางจักรยาน ทำสีพื้นทางพร้อมรูปสัญลักษณ์จักรยาน และสัญลักษณ์เตือนจุดอันตราย ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัย ปรับปรุงทางลาดทางเท้า เพื่อให้บริการจักรยานรวมถึงคนพิการ และติดตั้งที่จอดรถจักรยาน ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่

สำหรับเส้นทางการดำเนินการปรับปรุงทางจักรยานรอบเกาะรัตนโกสินทร์ 12 เส้นทาง รวมระยะทาง 8 กม. ระยะที่ 1 ได้แก่ 1. ถนนมหาไชย 2. ถนนกัลยาณไมตรี 3. ถนนท้ายวัง 4. ถนนมหาราช 5. ถนนหน้าพระลาน 6. ถนนหน้าพระธาตุ 7. ถนนราชินี 8. ถนนพระสุเมรุ 9. ถนนบวรนิเวศ 10. ถนนสนามไชย 11. ถนนตะนาว และ 12. ถนนพระอาทิตย์

4. บางกระเจ้า

เส้นปั่นบางกระเจ้า ท่ามกลางทุ่งต้นจาก
มาถึงสวรรค์ของนักปั่นอีกแห่งใกล้กรุงเทพฯ ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นคือ คุ้งกระเพาะหมูบางกระเจ้า สถานที่แห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย ในปี พ.ศ. 2549 จากนิตยสารไทม์เอเชีย (Time Asia) ที่นี่เป็นหนึ่งในตำบลของจังหวัดสมุทรปราการที่มีเส้นทางปั่นจักรยานที่น่าสนใจ และรับรองว่าปลอดภัยหายห่วงเพราะคุณจะได้ปั่นตามถนนเล็กๆ ในชุมชนที่ไม่วุ่นวาย ไม่มีรถรามากวนใจแน่นอน

เส้นทางปั่นในคุ้งกระเพาะหมู โดยเริ่มต้นง่ายๆ ที่ตลาดบางน้ำผึ้ง ที่นี่จะมีร้านจักรยานให้เช่าโดยเฉพาะไม่ต้องแบกไปเองให้เมื่อย เพราะเป็นชุมชนที่เปิดเป็นการท่องเที่ยวด้วยจักรยานโดยตรง อัตราค่าเช่าชั่วโมงละ 30 บาท ถ้าเหมาทั้งวันก็ 80 บาทต่อคัน

ตามเส้นทางหลักที่นักปั่นนิยมปั่นกัน คือ ปั่นไปตามเส้นทางที่จะไปมาทางซอยเพชรหึงษ์ 33 ตรงไปตามป้ายที่ชี้ว่าไปสวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์ เลี้ยวตามทางเข้าไปได้เลย จากนั้นจะเห็นป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ตลอดทาง ที่เด่นๆ ก็เช่น ร้านกาแฟน่านั่ง พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย บ้านธูปหอมสมุนไพร (มีสอนนักท่องเที่ยวทำธูปหอมและผ้ามัดย้อมด้วย) และ Bangkok Tree House (เป็นโรงแรมแนวกรีนไลฟ์ มีร้านอาหารและร้านกาแฟด้านใน ตกแต่งสวยงามบรรยากาศดี)

ปั่นเย็นสบายที่บางกระเจ้า จากนั้นก็ปั่นเอาจักรยานไปคืนที่ตลาดบางน้ำผึ้งที่เดิม ซึ่งอยู่ไม่ไกล ปั่นไปแวะเที่ยวระหว่างทางไปด้วย ใช้เวลาคร่าวๆ ประมาณ 3 ชั่วโมง รับรองได้สนุก ได้ออกกำลังกาย ได้ช่วยชุมชน และได้อิ่มท้องอีกด้วย

 

5. สวนลุมพินี

สวนลุมพินี แหล่งพักผ่อนกลางกรุง
ถ้าพูดถึงแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวกรุงเทพฯ ที่ร่มรื่น เดินทางสะดวก ทุกคนก็ต้องนึกถึงสวนลุมพินี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณสามารถมาปั่นจักรยานกันได้อย่างปลอดภัย มีเลนจักรยานให้ มั่นใจได้ว่าไม่มีรถยนต์มาเฉี่ยวชนแน่นอน แต่ต้องจำกัดความเร็วอยู่ที่ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะสวนสาธารณะแห่งนี้มีประชาชนมาเดินและวิ่งออกกำลังกายจำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องแชร์เส้นทางร่วมกัน

โดยนักปั่นสามารถมาปั่นจักรยานได้ในเวลา 10.00 – 15.00 น. หรือสามารถปั่นไปตาม “เส้นใน” หรือถนนเส้นรองได้ตลอดเวลาจนถึงเย็น ใครไม่แน่ใจว่าเป็นถนนเส้นไหนในสวนลุมฯ ลองสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนก็ได้

และล่าสุดมีข่าวว่าทางการกำลังดำเนินการปรับปรุงเลนจักรยานในสวมลุมฯ ใหม่ โดยจะแบ่งทำเลนจักรยานแยกออกมาจากเลนวิ่งอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งนักวิ่งและนักปั่นที่จะได้มีสถานที่พักผ่อนร่วมกัน และเป็นการส่งเสริมเรื่องเลนจักรยานปลอดภัยให้กับกรุงเทพฯได้อีกทางหนึ่งด้วย

 

ข้อควรระวังสำหรับนักปั่นมือใหม่

อย่าไปปั่นบนถนนสายหลัก ที่มี 4 เลน หรือ 8 เลน และไม่มีไหล่ทาง รวมถึงซอยใหญ่ๆ ที่รถยนต์มักมาใช้เป็นทางลัดตัดเข้าถนนสายหลัก ส่วนการข้ามถนนของนักปั่นควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก หากเป็นถนนเลนกว้างและรถยนต์ใช้ความเร็วสูง เช่น ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนรามอินทรา ควรข้ามด้วยสะพานลอยจะดีที่สุด นอกจากนี้ก็ไม่ควรข้ามถนนบนสามแยกหรือสี่แยกใหญ่ ๆ หรือกลับรถในจุดกลับรถของรถยนต์

อ่านต่อกับ นางฟ้านักปั่น แนะนำ 5 เส้นทางจักรยานน่าเที่ยว!

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์.(2010).ขาปั่นมาเช็กก่อน! เปิด 5 เส้นทางที่ใช่ ปั่นชิลปลอดภัย ต้องไปที่นี่.9 ธันวาคม 2559.
แหล่งที่มา : http://www.allthaievent.com/article/17/
ภาพประกอบจาก : http://www.allthaievent.com


.jpg

มาวางแผนทางการเงินกันดีกว่า ซึ่งหลีกเลี่ยงไปไม่ได้ว่า “เงิน” เป็นอีกองค์ประกอบที่สำคัญในการดูแลสุขภาพรวมถึงการป้องกันและรักษาโรค อย่างไรก็ตามเรายังมีความจำเป็นต้องจัดสรรปันส่วนเงินไปใช้ในกิจกรรมอื่น ๆ ของชีวิต สำหรับตอนนี้เรามาดูเรื่องของการวางแผนทางการเงินกันค่ะ

 

อะไรคือการวางแผนทางเงิน

เมื่อสักสองถึงสามปีที่ผ่านมามีกระแสการรักษาสุขภาพในแนวทางชีวจิตตื่นตัวขึ้นมาอย่างมาก แต่ผมจะไม่พูดเรื่องการกินอยู่ การถอนพิษออกจากร่างกายเพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นที่เราจะกล่าวถึงแต่จะขออ้าง คำพูดของ ดอกเตอร์สาทิต อินทรกำแหง ที่ท่านกล่าวในทำนองนี้ว่า การรักษาแบบชีวจิตเป็นการรักษาแบบองค์รวม คือ ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานดีขึ้นทั้งหมดโรคภัยไข้เจ็บจะได้ไม่มาเยือน ไม่ใช่การรักษาโรคที่บางครั้งโรคหายแต่คนร่างกายทรุดโทรมจนเกือบไม่รอด (ในบางรายแพทย์แนะนำว่าต้องตัดอวัยวะบางส่วนของร่างกายออกด้วย)

ด้วยแนวคิดเดียวกันถ้าเราตัวแทนประกันชีวิตไปพบผู้มุ่งหวังและนำเสนอการประกันชีวิตอย่างเดียว โดยไม่รู้ข้อมูลด้านอื่น ๆ ของผู้มุ่งหวังเลย (ด้วยความสามารถในการใช้บทเจรจาการขายที่ยอดเยี่ยม ผู้มุ่งหวังก็ตัดสินใจจ่ายเบี้ยก้อนโต) ก็เหมือนการรักษาโรคที่เน้นให้โรคหาย แต่คนไข้อาจจะบอบช้ำจากการรักษาจนไม่สามารถส่งเบี้ยประกัน หรือไม่อยากส่งเบี้ยปีต่ออายุปีต่อไปอีกเลย (เหมือนคนไข้กลัวหมอยอมตายดีกว่าต้องตัดอวัยวะออกอีก)

โดยแนวคิดของ Financial Planner ตัวแทนสามารถให้คำปรึกษาทางด้านการเงินแก่ผู้มุ่งหวังแบบองค์รวม และผู้มุ่งหวังจะสบายใจในการใช้บริการจากตัวแทนคนนั้นมากกว่า เพราะตัวแทนได้นำปัญหา ความฝัน เป้าหมายทางการเงินทุกด้านขึ้นมาตีแผ่ให้ผู้มุ่งหวังได้เห็นชัดเจนว่าตัวเขาอยู่ในจุดใด และเขาจะเดินไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้อย่างไร โดยมีการประกันชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเงินของเขาซึ่งทำให้ผู้มุ่งหวังยอมรับการมีประกันชีวิตได้ง่าย และได้มากกว่าที่ตัวแทนจะเสนอขายประกันชีวิตอย่างเดียว

 

แล้วองค์รวมของแผนการเงินมีอะไรบ้าง ?

ข้อมูลที่ผมนำเสนอต่อไปนี้ได้จากการค้นหาในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ Financial Planner ข้อมูลบางอย่างยังไม่มีในประเทศไทย แต่เรารู้กว้าง ๆ กันก่อน แล้วค่อยนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้างในองค์รวมนี้

  1. Retirement Planning การวางแผนเกษียณอายุ
  2. Education funding กองทุนการศึกษาบุตร
  3. Estate planning การวางแผนมรดก
  4. Cash management and budgeting การบริหารเงินสดและการจัดงบประมาณ
  5. Employee benefits การวางแผนผลประโยชน์สำหรับพนักงาน
  6. Planning for business owners การวางแผนสำหรับเจ้าของธุรกิจ
  7. Investment and asset management การลงทุนและการบริหารสินทรัพย์
  8. Tax planning การวางแผนทางภาษี
  9. Insurance การประกัน
  10. Planned and charitable giving การวางแผนบริจาคเพื่อการกุศล
  11. Elder and long term care planning การวางแผนสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ

จะเห็นได้ว่าประกันชีวิตเป็นเพียงข้อเดียวใน 11 ข้อของการวางแผนทางการเงิน แต่ผู้เขียนมุ่งหวังไม่ใช่จะต้องการการวางแผนการเงินทุกด้านทั้งหมด บางคนอาจจะต้องการ 5 ข้อ 8 ข้อ ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานะของตัวเขาเอง

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สมนึก ธนวัฒน์โกศล.(2010).มาวางแผนทางการเงินกันดีกว่า.8 พฤศจิกายน 2558.
แหล่งที่มา : http://www.bangkokwealth.com
ภาพประกอบจาก : www.ebony.com


5-วิธีแก้พฤติกรรมเสพติดมือถือ.png

ในยุคนี้การเสพติดเทคโนโลยี โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือหรือ smartphone ชีวิตของคุณจะถูกควบคุมโดยคุณไม่รู้ตัว ทั้งกิจกรรมในแต่ละวัน การงาน และความสัมพันธ์ของคุณ ลองสังเกตง่าย ๆ ว่าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้มั้ย เช่น ตื่นมาก็เช็กมือถือทันที เช็กข้อความขณะขับรถ หรือดู Facebook ขณะรับประทานอาหารกับคนสำคัญ นั่นแปลว่ามันเริ่มคุกคามชีวิตคุณ และคุณเสพติดมันแล้ว เรามาดู 5 วิธีแก้พฤติกรรมเสพติดมือถือ กันเลย

 

1. 30 นาทีแรกหลังตื่นนอน อย่าสนใจมือถือ

ถ้าคุณตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็กโซเชียลทันทีทั้งที่ยังไม่ลุกจากเตียง แสดงว่าคุณอาการหนักแล้ว แนะนำให้คุณลุกจากเตียง ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น ยืดเหยียดร่างกาย นั่งสมาธิ เตรียมอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ ผลการวิจัยพบว่าการทำตัวเองให้สดชื่นใน 30 นาทีแรกหลังตื่นนอน จะทำให้ทั้งวันเป็นวันที่สดชื่น

 

2. กำหนดเวลางดใช้มือถือวันละ 2 ชั่วโมง

โดยปกติเรามักจะนำโทรศัพท์มือถือวางไว้ใกล้ตัวในขณะทำงาน หรือในเวลาอื่น ๆ ตลอดทั้งวัน เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไม่ว่าจะสายโทรเข้าหรือแมสเซจเด้งเข้ามา มันจะดึงความสนใจจากงานหรือกิจกรรมที่คุณกำลังทำ ทำให้คุณเสียสมาธิและประสิทธิภาพการทำงานหรือกิจกรรมนั้น ๆ จะลดลง แนะนำให้คุณกำหนดเวลางดใช้โทรศัพท์ ให้กำหนดช่วงเวลาอย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่คุณมีสมาธิกับงานมากที่สุด ปิดเสียงหรือปิดเครื่องไปเลย เหมือนตอนที่คุณกำลังชมภาพยนตร์ในโรงหนังนั่นแหละ

 

3. ปิดมือถือตอนขับรถ

ตามกฎหมายบ้านเราก็ห้ามโทรตอนขับกันอยู่แล้ว แต่ให้เพิ่มความเข้มข้นด้วยการปิดมันเสียเลย ให้ลองคิดว่าคุณกำลังโดยสารเครื่องบินอยู่ก็ได้ซึ่งคุณจะต้องปิดเครื่องมือสื่อสารทั้งหมด เพราะอย่างที่เรารู้กันเมื่อใจเราและตาของเราอยู่ที่โทรศัพท์มือถือ สมาธิจะไม่อยู่บนถนนแล้ว บางคนอาจแก้ต่างว่า “ก็มันจำเป็นต้องเปิด GPS นำทางนี่นา” ให้คุณลองคิดแบบนี้ดู ว่าเมื่อ 5 ปี 10 ปีที่แล้ว เราก็ขับรถกันได้ไม่ต้องมีอุปกรณ์พวกนี้ ถ้าทำได้จะทำให้คุณมีสมาธิกับเส้นทางและมีความปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้น

 

4. อยู่กับโลกความจริงให้มาก ๆ

เมื่อคุณได้พบปะพูดคุย รับประทานอาหาร ดื่มกาแฟ หรืออกไปแฮงค์เอ้าท์กับใคร ให้ตระหนักไว้ว่านี่คือโลกความเป็นจริง ซึ่งคนที่นั่งตรงหน้าคุณคือคนในโลกความเป็นจริง การหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กนู่นเช็กนี่อยู่เป็นระยะ แม้จะพูดขออนุญาตแล้วก็ตาม ก็ถือว่าเป็นการเสียมารยาทและอาจทำลายความสัมพันธ์กันได้ง่าย ๆ เพราะเป็นการแสดงออกว่าโลกโซเชียลในมือถือสำคัญกว่าคนที่อยู่ตรงหน้า มีคำแนะนำง่าย ๆ เพียงแค่อย่าเอามือถือขึ้นมาไว้บนโต๊ะ ขณะกำลังทานอาหารกับแฟนกับเพื่อนหรือใครก็ตาม ก็ช่วยได้เยอะแล้ว

 

5. งดใช้มือถือก่อนนอน 1 ชั่วโมง

ถ้าคุณพบว่าตัวเองต้องนอนดึกขึ้นเนื่องจากการเล่นโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเล่นเกม เล่น Facebook แชท Line ดูยูทูปหรือเล่นเน็ตอยู่ คุณรู้มั้ยว่ากำลังสูญเสียเวลาการนอนที่มีค่าไปกับการเสพติดมือถือ เพราะจะเป็นการฝืน กระบวนการพักผ่อนโดยธรรมชาติของร่างกายเรา มีคำแนะนำให้คุณหยุดเล่นมือถือ 1 ชั่วโมงก่อนนอน เพื่อให้ชั่วโมงสุดท้ายของวันเป็นเวลาผ่อนคลายเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ที่สดชื่น

 

แหล่งข้อมูล : www.allthaievent.com  lifehack.org.(2010).5 วิธีแก้พฤติกรรมเสพติดมือถือ.12 ตุลาคม 2559.
ภาพประกอบ : www.allthaievent.com


-4-ชุดว่ายน้ำอวดจุดเด่นพรางจุดด้อย.jpg

ชุดว่ายน้ำ ถือเป็นอีกชุดปราบเซียนที่ส่งผลต่อความมั่นใจในรูปร่างของสาว ๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งหากใครฟิตหุ่นทันช่วงเวลาที่ต้องออกทริปทะเลก็ถือว่าได้กำไรไป แต่ถ้าไม่ทันงานนี้ก็คงมีเครียดกันหน่อย…ไม่ต้องกังวลใจมากเกินไปเพราะเรามีเคล็บลับในการเลือกชุดว่ายน้ำมาฝาก ถึงจะเป็นสาว ๆ หุ่นเฟิร์มที่ยังแอบห่วงเรื่องความสมส่วนของรูปร่างก็สามารถนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้ได้เช่นเดียวกัน

 

วิธีเลือก 4 ชุดว่ายน้ำอวดจุดเด่นพรางจุดด้อย


มีพุง

จะไปทะเลทั้งที พุงเจ้ากรรมดันมาโผล่ตอนนี้เสียได้ จะแก้ในระยะเวลาอันสั้นก็คงไม่ทันการณ์แล้ว ดังนั้นก็ต้องอาศัยชุดว่ายน้ำช่วยอำพรางหุ่นกันซักหน่อย สำหรับสาว ๆ รูปร่างอวบท้วม การใส่ชุดว่ายน้ำแบบวันพีซจะช่วยซัพพอร์ตสัดส่วนของคุณได้ดีที่สุด ทำให้มองเห็นเส้นเอวชัดเจน แต่ถ้าใครยังอยากสวมชุดว่ายน้ำแบบทูพีซก็ใช่ว่าจะมีไม่ทางออกเสียทีเดียว ลองเลือกชุดว่ายน้ำสไตล์วินเทจที่เป็นกางเกงว่ายน้ำเอวสูงจะสามารถแก้ปัญหาหน้าท้องที่หย่อนคล้อยได้

 

หน้าอกเล็ก

ถ้าขนาดหน้าอกทำให้สูญเสียความมั่นใจอย่าเพิ่งเศร้า เชื่อว่าสาว ๆ อกเล็กหลายคนคงกังวลไม่น้อยเพราะอดเทียบตัวเองกับนางแบบชุดว่ายน้ำไม่ได้ แต่จะให้ยัดฟองน้ำหรือกระดาษทิชชู่ก็กลัวพลาด เวลาลงเล่นน้ำจะมีขยะลอยตามเป็นพรวนไปอีก ทางออกของคุณแก้ไม่ยากค่ะ เพียงแค่เลือกชุดว่ายน้ำที่แต่งระบายตรงช่วงอก จะเป็นลูกไม้ โบผ้า หรือประดับจิวเวลรี่บลิ๊ง ๆ ก็เก๋เริ่ดกว่าใครแน่นอน ที่สำคัญดีเทลตรงช่วงอกยังช่วยหลอกสายตาให้หน้าอกของคุณดูนูนขึ้นด้วยนะ

 

ต้นแขนใหญ่

พยายามออกกำลังกายกระชับต้นแขนแทบตาย แต่ดันลดไม่ทันวันที่ต้องใส่ ชุดว่ายน้ำ ไปซะอย่างนั้น เรามีวิธีเรียกความมั่นใจของคุณสาว ๆ กลับคืนมาด้วยการเลือกชุดว่ายน้ำแบบ Long sleeve หรือแขนยาวเพื่อเก็บเนื้อส่วนเกินบริเวณต้นแขนให้ดูเฟิร์ม แล้วไม่ต้องกลัวว่าจะไม่สวยเท่าเพื่อน เพราะเดี๋ยวนี้ชุดว่ายน้ำแบบแขนยาวเขามีดีไซน์สวย ๆ เก๋ ๆ ให้เลือกเพียบ สีสันน่ารักสดใสไปจนถึงแซ่บเผ็ดพริกสิบเม็ด อยากได้แนวไหนเลือกให้สนุกเลย

 

รูปร่างตรง

รูปร่างเฟิร์มทั้งทีก็ยังเป็นปัญหา เชื่อว่าสาว ๆ บางคนแอบเครียดที่ตัวเองดันผอมจนดูไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง ขนาดหน้าอก เอวและสะโพก ดูรวม ๆ แล้วใกล้ ๆ กัน ขอย้ำว่าไม่ต้องใจเสีย รูปร่างแบบนี้แหละที่เหล่านางแบบบนรันเวย์เขาฮิตหนัก คุณใส่ชุดว่ายน้ำประเภทดีไซน์แปลก ๆ สายไขว้พันกันไปมาชนิดที่คนอื่นอาจใส่แล้วดูเป็นแหนม แต่คุณใส่แล้วดูแพงมาก พวกดีไซน์ชุดแบบเจาะเว้าตามช่วงเอวก็ใส่สวย เอาแบบที่หาง่ายที่สุดก็ต้องนี่เลย…บิกินี่ หุ่นของคุณเกิดมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ

 

เห็นมั้ยคะว่าปัญหารูปร่างและชุดว่ายน้ำนั้นมีทางแก้ เพียงแค่เลือกให้เหมาะเท่านั้น ซึ่งอันดับแรกก็ต้องพิจารณาว่าตัวคุณเองมีจุดเด่นตรงไหน และอยากพรางตรงไหนเป็นพิเศษหรือไม่ แต่ถ้าใครอยากหุ่นดีอย่างยั่งยืน ก็อยากชวนมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตคือคุณจะมีทั้งร่างกายที่แข็งแรงซึ่งส่งผลให้จิตใจแข็งแรงไปด้วย มาเริ่มต้นออกกำลังกายกันตั้งแต่วันนี้ แล้วก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่าทริปไหนจะไม่พร้อม เพราะถ้าหุ่นกระชับได้สัดส่วนแล้วจะใส่อะไร แฟชั่นแนวไหน ก็สวยทุกองศาแน่นอน

 

เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
แหล่งที่มา : www.cosmopolitan.com   www.popsugar.com   www.shape.com
ภาพประกอบจาก : www.freepik.com  www.na-kd.com   www.hm.com   www.lavieenrose.com   www.fashionnova.com

 


5-นิสัย-การมีไลฟ์สไตล์ทางเทคโนโลยีที่ดี.jpg

5 นิสัย การมีไลฟ์สไตล์ทางเทคโนโลยีที่ดี เราทุกคนรักเทคโนโลยี แต่ก็เหมือนกับทุกสิ่งที่มีข้อดีมากมาย และข้อเสียก็มากตาม ต่อไปนี้คือข้อเสนอแนะในการใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิตอลให้มีสุขภาพกายและใจที่ดีตามไปด้วย เพราะการใช้งานอุปกรณ์ไอทีบางชนิดจะส่งผลต่อร่างกาย สภาวะจิตใจ และอารมณ์ได้

 

1. ปิดหน้าจอให้สนิทก่อนเข้านอน

หลายคนอาจะมีพฤติกรรมการชมรายการออนไลน์ เช่น YouTube, Twitter หรือ Netflix เป็นต้น แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้บ่งบอกไว้ชัดเจนว่า “ไม่เพียงแต่คุณจะนอนไม่เต็มอิ่มหลังจากที่คุณจ้องมองหน้าจอที่มีแสงสว่างมาก ๆ ก่อนนอนเท่านั้น แต่จะส่งผลต่อคุณภาพการนอน ที่จะลดต่ำลงด้วย เพราะแสงจากหน้าจอหรือแล็บท็อป จะทำให้สมองและจิตใจคุณตื่นตัวตลอด จะทำให้คุณนอนหลับได้ยาก”

มีแอพมากมายที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อช่วยบรรเทาปัญหานี้ ไม่ว่าจะเป็น Lux ใน Android และโหมด Night Shift ใน iOS แต่สิ่งที่ผู้ใช้ทุกคนพึงกระทำ คือ ปิดหน้าจอให้สนิทก่อนที่จะนอน หรืออาจเปลี่ยนเป็นฟังเพลงสบาย ๆ ผ่านทางสมาร์ทโฟน ก็สามารถช่วยให้คุณนอนหลับสนิทได้เหมือนกัน

 

2. มีสมาธิทำงานทีละหนึ่งอย่าง

บางคนอาจคิดว่า การทำงานทีละหลาย ๆ อย่าง เช่น เช็คอีเมลไปพร้อมกับดูข่าวใน Twitter และแก้ไขงานใน Microsoft Word ไปพร้อมกัน จะแสดงถึงประสิทธิภาพในการทำงาน แท้จริงแล้ว การที่เรามุ่งความสนใจในสิ่งต่างมากเท่าไร ผลงานที่ถูกผลิตออกมาจะมีคุณภาพด้อยลงไป เหมือนดังเช่นที่นักจิตวิทยากล่าวไว้ว่า “การที่จะทำงานหลายอย่างให้ได้ประสิทธิภาพในคราเดียวนั้น งานหนึ่งชิ้นแทบจะใช้ทุกส่วนของสมองไปโดยอัตโนมัติแล้ว และงานแต่ละชิ้นที่เหลือจะต้องใช้พื้นที่สมองในส่วนที่ต่างกันออกไป” ซึ่่งหมายความว่า ในสมองหนึ่งส่วนจะไม่สามารถเพ่งการทำงานไปที่การเช็คอีเมล ดูสื่อออนไลน์ และทำงานเอกสารไปพร้อมกันได้ ลองมีสมาธิในการทำงานทีละหนึ่งอย่างต่อหนึ่งครั้ง จะทำให้รู้สึกดีกับงานและผลงานที่มีคุณภาพ

 

3. ให้หน้าจออยู่ในระดับสายตาเสมอ

การพิมพ์ข้อความในสมาร์ทโฟน หรือแล็บท็อปจะทำให้ผู้ใช้ต้องก้มคอต่ำลง ซึ่งผู้ใช้ควรที่จะถือสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้อยู่ในระดับสายตามากที่สุด เพื่อเป็นการลดแรงกดที่มีต่อกระดูกสันหลังของผู้ใช้ หรือจะให้ดี ควรหลีกเลี่ยงการเดินไป พิมพ์ข้อความไปเลย การนั่งพิมพ์เอกสารบนโต๊ะทำงานที่ถูกวิธี ก็สามารถทำได้ง่าย เพียงวางตำแหน่งของคีย์บอร์ดและหน้าจอให้พอเหมาะ หรือถ้าหากว่าใช้แล็บท็อป ผู้ใช้สามารถต่อพ่วงคีย์บอร์ดออกมา และหาวัสดุแบบง่าย ๆ มาเสริมฐานของแล็บท็อปให้อยู่ในระดับสายตา เพราะในทางการแพทย์นั้น ดวงตาของเราควรจะต้องมองตรงไปข้างหน้า หลังควรจะต้องตรง และแขนจะต้องตั้งฉากกับลำตัว

 

4. หยุดสื่อสารในโลกออนไลน์บ้าง

บริษัทผู้ใหับริการโซเชียลเน็ตเวิร์ครายใหญ่ๆ (ไม่ขอเอ่ยนาม) รู้กลวิธีอันชาญฉลาดมากมายที่จะทำให้คุณติดอยู่กับโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค และอยากจะกลับมาอัพเดทข่าวสารตลอดเวลา (ยกตัวอย่างเช่น การเฝ้าดูยอดกด Like เป็นต้น…ไม่ขอเอ่ยนามผู้ให้บริการอีกครั้ง) แต่ผู้ใช้ควรจะหาเวลาพักผ่อนสายตาและสมอง จากข้อมูลข่าวสารในโลกออนไลน์ที่มีอยู่ตลอดเวลาลงบ้าง ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้ใช้เป็นอย่างยิ่ง

จากการศึกษามากมาย พบว่า การที่ผู้ใช้เพ่งสมาธิไปที่โลกสังคมออนไลน์เป็นเวลานาน จะเพิ่มระดับความเครียดและอารมณ์ซึมเศร้า เปลี่ยวเหงา เมื่อผู้ใช้คิดเปรียบเทียบชีวิตของตนกับผู้อื่นที่พบในโลกออนไลน์ ซึ่งเมื่อผ่านไปสักระยะ จะส่งผลต่อระดับอารมณ์ของผู้ใช้ด้วย ผู้ใช้ควรยกเลิกการติดตั้งแอพโซเชียลเน็ตเวิร์คบางตัวออกจากสมาร์ทโฟน และเปลี่ยนมาเป็นเข้าดูผ่านทางเว็บไซต์แทนบ้าง

 

5. ป้องกันข้อมูลดิจิทัลให้ดี

การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข คำพูดนี้สามารถนำมาดัดแปลงใช้กับไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตโลกดิจิตอลได้ดีเป็นอย่างยิ่ง ข้อเสนอแนะที่จะกล่าวต่อไปนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่า จะไม่ประสบกับปัญหาการสูญหายของข้อมูลออนไลน์ใน Account ต่าง ๆ ของผู้ใช้ ยอมเสียเวลาแค่ไม่กี่นาที ดีกว่าเสียเป็นชั่วโมงเพื่อแก้ปัญหาในภายหลัง

  • ขั้นแรก ต้องแน่ใจว่าข้อมูลดิจิตอลทุกอย่างที่สำคัญของผู้ใช้ ได้รับการแบ็คอัพไว้ในอุปกรณ์อย่างน้อยสองหรือสามอย่าง เช่น เก็บไว้ในอินเตอร์เน็ตและใน Extenal Drive เพื่อปัองกันการสูญหายของข้อมูล
  • ขั้นที่สอง ตั้งการตรวจสอบการใช้งาน Account ของผู้ใช้เป็น 2 ขั้นตอน บน Account ต่าง ๆ ของผู้ใช้ให้มากที่สุด ลบแอพและบริการต่างที่ไม่จำที่เชื่อมโยงกับ Account ของผู้ใช้ออกไป (เป็นคำแนะนำจาก Twitter และ Facebook)

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.t3.com/news/5-habits-for-a-healthier-tech-lifestyle
ภาพประกอบจาก : www.standard.co.uk


10เคล็ดลับ.jpg

ยุคนี้เป็นยุคของคนรักสุขภาพ เราจะเห็นได้ว่าช่วงนี้มีงานวิ่งมาราธอน วิ่งการกุศล เต็มไปหมด หลายคนอยากวิ่ง แต่ไม่รู้มาก่อนว่า การเตรียมตัวก่อนวิ่งสำคัญมากแค่ไหน เรามาเริ่มเตรียมตัวกันให้พร้อมก่อนออกไปวิ่งด้วย 10 เคล็ดลับ เตรียมตัวก่อน วิ่งมาราธอน กันดีกว่า…

 

1. เตรียมตัวโหลดคาร์โบ

การโหลดคาร์โบ คาร์โบที่ว่านี้คือ คาร์โบไฮเดรต คือจะต้องกินอาหารพวกเเป้ง เตรียมไว้เพื่อให้ร่างกายและกล้ามเนื้อเปลี่ยนเอาเเป้งเป็นไกลโคเจนไปสะสมไว้ตามส่วนต่าง ๆ ตามเเขน ตามขา จะได้ดึงพลังงานเหล่านี้มาใช้ในการวิ่งนั่นเอง

 

2. ห้ามกินของเเปลก

อย่ากินอาหารแสลง ที่อาจทำให้ระบบในร่างกายรวนได้ เช่น ส้มตำ หรืออาหารรสจัด ที่ทำให้ท้องเสีย ท้องผูก อาหารเป็นพิษ หรือถึงขั้นป่วย แต่ขนมปังที่ขายตามห้างหรือมินิมาร์ท กินได้นะคะ เเต่ใครที่ย่อยพวกนมและชีสไม่ได้ก็ควรระวังเอาไว้

 

3. ดื่มน้ำมาก ๆ

ปรับสมดุลในร่างกายด้วยการดื่มน้ำ ซึ่งสังเกตได้จากการดูสีปัสสาวะ ถ้าปัสสาวะสีเข้มนี่แสดงว่าขาดน้ำ ควรจะต้องดื่มเกลือแร่เพื่อให้ร่างกายได้เติมเต็มดีกว่าขาด อ๊อ ! เเละที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการดื่มเเอลกอฮอล์ทุกชนิดค่ะ เพราะแอลกอฮอล์เป็นตัวการที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำเลยแหละ

 

4. พักผ่อนให้เพียงพอ

ก่อนวิ่งควรพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วง 1 – 2 วันก่อนวิ่ง ไม่ควรออกกำลังกายแบบหักโหมเด็ดขาด แนะนำว่าก่อนวิ่งให้ไปไปพักผ่อนเพลิดเพลิน เพื่อให้ร่างกายได้ตื่นตัวดีกว่าค่ะ

 

5. ถ้ารู้สึกเครียด ตื่นเต้น ให้วิ่งเบา ๆ

หลายคนมักตื่นเต้นก่อนออกวิ่ง เลยทำให้ร่างกายไม่พร้อม และวิธีการลดความเครียดหรืออาการตื่นเต้นนี้ คือ การวิ่งนั่นแหละค่ะ แต่เป็นการวิ่งเบา ๆ เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง แค่วิ่งเบา ๆ ซัก 20 นาที แต่อย่าวิ่งนานกว่านั้นมากเพราะจะทำให้ร่างกายล้าได้

 

6. จัดการเสื้อผ้า หน้าผม เล็บเท้าให้เรียบร้อย

จะวิ่งทั้งทีต้องเตรียมตัวให้พร้อม อย่างการ ตัดผม มัดผมให้เรียบร้อย ไม่รุ่มร่ามเวลาวิ่ง ไม่งั้นอาจทำให้เรารู้สึกรำคาญและเหนื่อยง่าย ซึ่งเป็นอุปสรรค์ในการวิ่ง และควรทาวาสลีน ตามพวกข้อพับเพื่อลดการบาดเจ็บที่เกิดจากการเสียดสี

 

7. สำรวจอุปกรณ์ให้พร้อม

ในวันที่ไปรับ BIB หรือที่ภาษาฝรั่งเรียกว่าวันรับ Race Packet ต้องสำรวจแผ่น BIB หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “BIB” (หมายเลขประจำตัวของนักวิ่ง) ให้ดี ถ้าไม่มีระวังจะอดวิ่งนะจ๊ะ

 

8. ศึกษาเส้นทางการวิ่ง

ก่อนออกวิ่งควรศึกษาเส้นทางการวิ่งให้ดีซะก่อน ไม่งั้นหลงไปนี่แย่เลยทีเดียว ซึ่งข้อมูลนี้ก็หาได้ง่าย ๆ ตามเว็บไซต์หรือเฟสบุคของกิจกรรมนั้น ๆ สิ่งที่ควรจะต้องศึกษา คือ จุด Start/Finish ว่าอยู่ตรงไหน มี Runner’s welfare รึเปล่า อย่างเช่น จุดรับฝากของ ห้องน้ำ จุดรับน้ำอาหาร เป็นต้น

กำหนดการวิ่ง ปล่อยวิ่งกี่โมง cutoff กี่โมง จุดให้น้ำให้อาหาร เริ่มที่กิโลเมตรที่เท่าไหร อย่าลืมเรื่องห้องน้ำและจุดพยาบาลด้วยล่ะ

 

9. วางเเผนการเดินทาง

นอกจากศึกษาเส้นทางวิ่งแล้ว การเดินทางเพื่อไปวิ่งก็สำคัญ เพราะจะต้องกะเวลาการเดินทางไปให้ทันเวลาและถ้าหากงานนั้นจัดในต่างจังหวัด ก็จะได้จัดจองหาที่พักเผื่อเอาไว้ล่วงหน้าได้ทันและสะดวกในการเดินทาง คนที่มีรถส่วนตัว ก็ต้องดูว่าเส้นทางที่เดินทางจะมีการปิดจราจรช่วงไหน เวลาไหน สามารถใช้เส้นทางไหนในการเดินทางได้บ้าง

 

10. สร้างเเรงบันดาลใจ

ก่อนวิ่งควรสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง ว่าเรามาวิ่งเพื่ออะไร และเราได้อะไรจากการวิ่ง การหาหนังสือ ฟังเพลงหรือดูหนังเพื่อสร้างเเรงบันดาลใจด้านบวกจะช่วยให้เราไม่รู้สึกท้อแน่นอน การสร้าง Motivation เป็น 1 ในเทคนิคการ เตรียมตัวก่อนวิ่งมาราธอน

หลายคนอาจจะคิดว่าการเตรียมตัวไม่สำคัญ สำหรับใครที่ไม่เคยเตรียมตัวก่อนวิ่งแล้วไปวิ่งจะรู้ดีว่า การเตรียมตัวเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก และไม่ใช่สำหรับเรื่องนี้เรื่องเดียว เพราะการเตรียมตัวสำคัญสำหรับทุกเรื่องเสมอไม่ว่าจะทำอะไร

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.allthaievent.com.(2010).10 เคล็ดลับ เตรียมตัวก่อน วิ่งมาราธอน.22 สิงหาคม 2559.
แหล่งที่มา : http://www.allthaievent.com/article/102/
ภาพประกอบจาก : www.allthaievent.com


5-กิจกรรมที่ชวนแฟนทำแล้วลดน้ำหนักแถมสวีทสุด.jpg

สำหรับบางคน ลดน้ำหนักอกกำลังกายคนเดียวอาจจะรู้สึกไม่ค่อยมีกำลังใจเท่าไหร่นัก แต่ถ้ามีเพื่อนมาร่วมกิจกรรมด้วยกันก็ยิ่งสนุก และถ้ายิ่งได้แฟนมาชวนกันลดน้ำหนักด้วยแล้วยิ่งมีแรงฮึดคูณสิบขึ้นมาทันที เรามาลองดูไอเดียสร้างกิจกรรมดี ๆ ที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์อีกทั้งยังได้ออกกำลังกาย เรียกว่ากิจกรรมเดียวได้ทั้งหุ่นดีและความรู้สึกกุ๊กกิ๊ก

 

ทำอาหารคลีน

อาหารคลีนนั้นเป็นเมนูที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ระบบของร่างกายสามารถเผาผลาญได้ดีขึ้นนอกเหนือจากการออกกำลังกายตามปกติ ลองเริ่มต้นมื้ออาหารสุขภาพของคุณด้วยการชวนคนพิเศษเข้าครัวกันดูซักครั้ง อาจลองเนื้อที่รับประทานง่าย ๆ อย่าง เนื้อปลาต่าง ๆ แต่ถ้าคุณทั้งคู่เคยมีประสบการณ์อาหารเพื่อสุขภาพกันมาบ้างแล้วก็ลองอกไก่ ควินัว ธัญพืชที่มีเส้นใยสูง
ไม่ต้องกังวลว่าจะออกมารสชาติไม่ถูกปาก เพราะอย่างไรคุณทั้งคู่ลงมือทำด้วยกันก็ได้ความทรงจำที่ดี ได้ออกแรง ถ้ายังรู้สึกว่ามื้ออาหารคลีนเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไป ลองขยับมาดูสเต็ปเล็ก ๆ อย่างการทำขนมแบบ Low fat หรือทำ Protein bar ไว้กินเล่นกันก็ได้

 

ออกเดทที่ลานสเก็ต

ถ้านึกถึงการออกเดท เชื่อว่าคู่รักหลายคู่นึกถึงโรงหนังและร้านอาหารกึ่งผับซึ่งเป็น 2 สถานที่ยอดนิยมตลอดกาล อย่างไรก็ดี ลองเปลี่ยนบรรยากาศหลีกหนีความจำเจดูบ้าง อย่างลานสเก็ตน้ำแข็งและลานโรลเลอร์เบลด ที่นอกจากจะดูแปลกใหม่ระหว่างคุณทั้งคู่แล้วยังสนุก เป็นกิจกรรมที่เรียนรู้ได้ง่ายยิ่งกว่าปั่นจักรยานเสียอีก
ไม่ต้องกังวลว่าจะเล่นไม่เป็น รับรองว่าไม่ถึง 10 นาทีคล่องแน่นอน เป็นกิจกรรมที่คุณทั้งคู่อาจได้มองเห็นแง่มุมใหม่ ๆ ของกันก็ได้ นอกจากนั้นการเล่นสเก็ตน้ำแข็งเป็นเวลาเต็มรอบหรือ 45 – 60 นาที ยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ประมาณ 450 – 550 แคลอรี่เลยนะ…เบิร์นได้ขนาดนี้เกือบเท่าปีนเขาเลยล่ะ แบบนี้หุ่นดีทั้งคุณและแฟนแน่นอน

 

พาทัวร์สวนผลไม้

วันหยุดไปเที่ยวที่ไหนดี…เชื่อเถอะว่าถึงเวลาสุดสัปดาห์หรือช่วงหยุดยาวทีไรคนมีคู่ต้องได้ยินคำถามนี้กันจนแทบไม่รู้ว่าจะตอบอะไร สุดท้ายอาจลงเอยด้วยการไปสถานที่เดิมซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาทัวร์สวนผลไม้กันดูบ้าง อย่างสวนสตรอเบอร์รี่ สวนเชอรี่ สวนเงาะ สวนแก้วมังกร ฯลฯ ยังมีผลไม้อีกมากมายที่รอให้คุณได้ไปสัมผัสบรรยากาศ วิถีชีวิตชาวสวน และรอให้คุณได้รับประทานสด ๆ จากต้น
สูดออกซิเจนจากต้นไม้เขียว ๆ เข้าไปเต็มปอด สุขภาพดีแบบครบองค์รวมไปอีก รู้แบบนี้แล้วอย่ารอช้า…สะกิดคนรักแล้วเลือกเลยว่าอยากไปสวนไหนในประเทศไทย แต่ถ้าเลือกสวนทุเรียนขึ้นมา เวลาไปทัวร์คงต้องยั้ง ๆ ใจกันหน่อยนะ อย่ากินเยอะจนกลายเป็นเพิ่มน้ำหนัก

 

ค่ำคืน Mocktail

อยากลดน้ำหนักก็ด้วย อยากนั่ง Drink ยามค่ำคืนสุดโรแมนติกกับแฟนก็ใช่…แต่รู้เอาไว้เลยว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้อ้วนได้ ถ้าอธิบายตามหลักเคมีก็คือ แอลกอฮอล์สามารถเกิดกระบวนการเป็น Fatty acid ได้ อีกทั้งยังมีผลกับ Glycerol ที่สามารถไปรวมร่างกับ Fatty acid จนกลายเป็น Triglyceride ได้ด้วย เรียกว่าทั้งอ้วนนอกและในช่องท้อง 2 เด้ง
แต่อย่าเพิ่งเครียด…ถ้าจะบอกว่าเดี๋ยวนี้ Rooftop Bar หลายแห่งในเมืองกรุงเขามีบริการเครื่องดื่ม Mocktail กันแล้ว โดนเครื่องดื่มชนิดนี้ส่วนใหญ่ทำจากน้ำผลไม้ น้ำเชื่อม และโซดา เป็นหลัก ดังนั้น สามารถดื่มด่ำท่ามกลางบรรยากาศค่ำคืนได้แน่นอน แต่อย่าลืมเลือกชนิดที่หวานน้อย ๆ เพราะถ้าอ้วนเพราะน้ำตาลก็คง Fail เหมือนกัน

 

งานบ้านสุดสวีท

วันธรรมดาทำงานตัวเป็นเกลียว วันหยุดก็หลับเป็นตาย งานบ้านก็กองทิ้งไว้อย่างนั้น หรือบางบ้านสาว ๆ อาจใช้อำนาจมืดในการให้คุณแฟนลงมือทำเพียงลำพัง ผลลัพธ์ที่ตามมาคือสาว ๆ สบายแต่อ้วนไปอีก ดังนั้น ตั้งสตินับหนึ่งใหม่ มาลองชวนคุณแฟนทำงานบ้านไปพร้อม ๆ กันนี่แหละ ไม่ต้องไปแบ่งว่าอันนั้นหน้าที่เธอ อันนี้หน้าที่ฉัน ทำพร้อมกันคุณจะได้ค่าความสัมพันธ์ที่ยกระดับขึ้นมากกว่า แถมงานบ้านแต่ละอย่างยังช่วยให้ได้ออกแรง ระบายเหงื่อ ได้เผาผลาญแคลอรี่ ลองนึกภาพ ถูบ้านด้วยกันก็ฟินแล้ว

 

กิจกรรมแต่ละอย่างที่เราแนะนำน่าสนใจทั้งนั้น ใครกำลังมองหาโอกาสที่จะสร้างความทรงจำสุดกุ๊กกิ๊กระหว่างกันก็ลองเอาไปใช้ได้ แน่นอนว่าจะช่วยให้การลดน้ำหนักของคุณทั้งคู่กลายเป็นเรื่องธรรมชาติที่ทำได้ในทุกช่วงเวลาของวัน สนุก และไม่รู้สึกว่าฝืนหรือยากลำบากเลย

 

เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพประกอบจาก : www.freepik.com

 


...สุขภาพยังดี-edit.jpg

สำหรับสาว ๆ ทั้งหลาย การช็อปปิ้งถือเป็นกิจกรรมแสนสนุกและโปรดปรานตลอดกาล บางคนสามารถเดินช็อปปิ้งได้นาน ๆ อย่างไม่รู้เบื่อจนหลงลืมเวลา พอรู้ตัวอีกทีก็ปวดเมื่อยไปทั้งร่างกาย และเมื่อกลับบ้าน บางคนก็ต้องตกใจกับจำนวนเงินที่จ่ายไป เมื่อเห็นของสวย ๆ งาม ๆ วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการช้อปปิ้งที่ดีต่อร่างกาย จิตใจ และกระเป๋าเงินด้วยมาฝากกัน

 

  • เตรียมตัวก่อนไปช็อปปิ้งด้วยการนอนหลับให้เต็มอิ่ม กินอาหารรองท้องไปบ้าง ถ้าไม่อยากรู้สึกโหย แม้คุณจะวางแผนไปนั่งสั่งอาหารอร่อย ๆ ที่ร้านสวย ๆ ซึ่งหมายตาไว้ก็ตาม
  • สวมเสื้อผ้าและรองเท้าที่ใส่สบายและคล่องตัว เลือกคัชชูหรือรองเท้าแตะที่ใส่แล้วไม่เมื่อยเท้า หรือจะสวมรองเท้าผ้าใบเลยก็ตามสะดวก
  • สาว ๆ ที่หิ้วกระเป๋าใบยักษ์เป็นประจำ เมื่อไปช้อปปิ้งควรเปลี่ยนกระเป๋าใบเล็ก ใส่ของที่จำเป็นอย่างกระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ และกุญแจรถเท่านั้น เพราะอย่าลืมว่าคุณจะต้องหิ้วถุงเพิ่มอีกหลายชิ้น
  • ใช้รถเข็นที่ห้างสรรพสินค้ามีไว้ให้บริการ คุณจะได้ไม่ต้องหิ้วถุงหนัก ๆ เอง และยังดูออกได้ง่ายด้วยว่าซื้ออะไรไปแล้วบ้าง แถมยังไม่เสี่ยงกับการที่ถุงจะขาดอีกด้วย
  • หากต้องหิ้วถุงเอง พยายามอย่าหิ้วถุงด้วยมือข้างเดียวนาน ๆ หรือหิ้วถุงหนักเกินไป ใช้บริการฝากของถ้ารู้สึกว่าเริ่มมีถุงมากเกินจะถือเองไหว
  • จดรายการของเบื้องต้นที่อยากซื้อและงบประมาณสำหรับวันนั้น ไม่มีอะไรแย่เท่าการช็อปปิ้งจนหมดตัวแล้วต้องอดต่อไปทั้งเดือน แม้ว่าคุณมีทุนเพื่อช้อปปิ้งเหลือเฟือ การตั้งงบประมาณก็เป็นวิธีที่ดีเพื่อฝึกตัวเองไม่ให้ใช้จ่ายมากเกินไป
  • พยายามใช้เงินสดเท่าที่มี ใช้บัตรเครดิตให้น้อยที่สุด เพราะในการจ่ายเงินสดคุณจะรู้สึกถึงเงินที่จ่ายไปมากกว่าการรูดบัตร ป้องกันการซื้อสินค้าราคาแพงเกินไปหรือไม่จำเป็นได้
  • เปรียบเทียบราคาและคุณภาพสินค้า สิ่งสำคัญที่สุดควรอยู่ที่ความจำเป็น ความมีประโยชน์ ความทนทาน ความคุ้มราคา ความสวยงาม และความถูกใจ บางอย่างที่คิดว่าซื้อมาแล้วจะถูกซุกอยู่ในตู้เฉย ๆ ก็อดใจรอไว้ก่อน เพราะคุณอาจไม่ต้องการมันจริง ๆ ก็ได้
  • ชวนเพื่อนที่มีเหตุผลในการใช้เงินไปด้วย เผื่อเพื่อนจะได้ช่วยดึงสติตอนคุณอยากได้ของที่ไร้เหตุผลหรือแพงเกินไป และเพื่อนยังช่วยคุณสำรวจข้อบกพร่องของสินค้า และเป็นนักวิจารณ์ส่วนตัวได้ด้วยว่าชุดที่คุณซื้อเหมาะกับตัวคุณแค่ไหน
  • อย่าเห็นแก่ของแถมหรือของลดราคา คิดให้ดีว่าเมื่อซื้อมาแล้วจะได้ใช้หรือไม่ ถ้าคำตอบคือไม่ อย่าซื้อ
  • อย่าลืมต่อรองราคาหรือถามเกี่ยวกับส่วนลดพิเศษด้วย บางร้านแม้พนักงานลดราคาให้เองไม่ได้ แต่มีส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าประจำหรือเงื่อนไขพิเศษแบบต่าง ๆ สำหรับบัตรเครดิต
  • เก็บใบเสร็จไว้เสมอ เผื่อสินค้ามีปัญหา ถ้ายังไม่รีบใช้ อย่าเพิ่งแกะป้ายราคาออก เผื่อเปลี่ยนใจอยากขายต่อภายหลัง
  • เมื่อแวะนั่งที่ร้านกาแฟหรือร้านอาหารที่ถูกใจ พยายามสั่งอาหารที่ไม่ทำร้ายสุขภาพ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรือดื่มแต่น้อย เพราะคุณคงไม่อยากช็อปปิ้งต่อหลังจากนั้นแบบสติครึ่ง ๆ กลาง ๆ
  • กำหนดเวลาช็อปปิ้งไว้คร่าว ๆ บางคนเผลอตัวช็อปปิ้งหนักเป็นวันๆ ผลคือต้องปวดหลัง ปวดเอว ปวดแขน บ่า ไหล่ ไปอีกนาน ถ้าจำเป็นต้องใช้เวลานาน ๆ ควรหาเวลานั่งพักผ่อนเป็นระยะ นั่งจิบชากาแฟในร้านน่ารัก ๆ หายเหนื่อยแล้วค่อยลุยต่อก็ยังได้

 

ด้วยเคล็ดลับต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ คงช่วยให้ขาช็อปแหลกมีแนวทางการช็อปปิ้งที่ดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจขึ้น ลองหาวิธีที่เหมาะกับตัวคุณเอง หาเคล็ดลับส่วนตัวให้เจอ เพื่อจะกลายเป็นสาวนักช็อปที่มีเหตุผล ร่างกายไม่พังหลังออกตะลุยช็อป และจิตไม่ตกหลังจากกลับถึงบ้าน

 

เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
แหล่งข้อมูล : www.betterhealth.vic.gov.au
ภาพประกอบ : www.unsplash.com


fun-traveling-beautiful-shape.jpg

เที่ยวสนุก… ได้หุ่นดีเป็นของแถม การท่องเที่ยวนั้นไม่ได้หมายถึงว่าจะเอาแต่กินกับนอนแล้วก็เล่นน้ำเพียงเท่านั้น เพราะบางคนนั้นถึงกับต้องเครียด เพราะพุงหนาที่มาเป็นของแถมอยู่เป็นประจำ และสุดท้ายก็ต้องมานั่งเครียดว่าจะจัดการกับมันอย่างไร ดังนั้น เพื่อหุ่นสวยที่คุณปรารถนา ดังนี้

 

การวิ่งในน้ำ

การวิ่งในน้ำนั้นเป็นกิจกรรมที่เยี่ยมมาก เพราะว่าการเผาผลาญแคลอรี่เป็นสองเท่าเพียงแค่เปลี่ยนที่วิ่งจากบนบนเป็นในน้ำ คุณลองมองหาที่ที่มีน้ำค่อนข้างลึกและวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้สัก 30 วินาที จากนั้นให้ลอยตัวหรือว่ายน้ำสบาย ๆ เป็นการพักอีก 30 นาที เชื่อไหมว่าขอแค่ 30 นาทีที่เร่งจังหวะสลับกับผ่อนคลายไป ๆ มา ๆ จะช่วยเผาผลาญได้เกือบ 300 แคลอรี่เชียวนะค่ะ 

 

วิดพื้นในน้ำ

คงจะทราบกันดีใช่ไหมละค่ะ ว่าเวลาที่เรานั้นลอยตัวในนั้น ตัวเราจะเบาหวิวกันเลยทีเดียวละค่ะ เพราะฉะนั้นแล้ว การวิดพื้นก็จะง่ายขึ้นแล้วยังช่วยกระชับวงแขนและไหล่ได้อย่างดีเยี่ยม ก่อนอื่นคุณต้องไปหาบริเวณตื้น ๆ มืออยู่ที่ขอบสระ ส่วนเท้าอยู่ที่ก้นสระ จากนั้นค่อย ๆ งอศอกให้ใบหน้าเราอยู่ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยต้องไม่ให้ใบหน้าแตะน้ำ จากนั้นก็ยึดศอกขึ้น ทำท่านี้ช้า ๆ อีก 2 – 3 เซ็ต เซ็ตละ 15 ครั้ง

 

เดินสบาย ๆ ริมหาด หรือในทะเล

การเดินชิลล์ ๆ ริมหาดหรือในทะเลนั้นทั้งทรายและน้ำทะเลจะช่วยเหนี่ยวรั้งร่างกายของเราเอาไว้และทำให้ร่างกายส่วนล่างต้องใช้พลังงานอย่างหนัก อีกทั้งยังมีนักวิจัยพบว่า การเดินในทะเลที่น้ำลึกระดับต้นขาจะช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากที่สุด และแม้แต่น้ำตื้นระดับข้อเท้าก็ช่วยให้เรียวขางามได้

 

กระโดดข้ามคลื่น

คลื่นที่ซัดมาที่ฝั่งจะให้มันซัดมาแล้วผ่านไปเลยได้ยังไงละค่ะ ให้เราทำการมุ่งหน้าที่น้ำลึกระดับเอว เช็กให้ดี ๆ ว่าแถบนั้นไม่มีก้อนหิน ย่อตัวลงและพยายามกระโดดข้ามคลื่นที่เข้ามาหาทีละลูก ถ้าเบื่อก็ลองเปลี่ยนท่าเป็นกระโดดไปข้าง ๆ ข้างหลัง หรือกระโดดสลับขาเพื่อให้ได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน 

 

ยืนให้มั่นคง 

เพียงแค่คุณยืนให้อยู่ในขณะที่ประจันหน้ากับคลื่น จะช่วยให้ได้บริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องและแผ่นหลัง เมื่อรู้สึกว่าได้สมดุลดีแล้ว ลองเปลี่ยนมายืนขาเดียวหรือแข่งกับเพื่อน ๆ ว่าใครจะยืนได้นานที่สุด 

 

การเดินถอยหลังในน้ำ

คุณอาจจะทำการเดินหรือจ็อกกิ้งถอยหลังในน้ำจะเห็นผลเร็วขึ้นมาก เพราะเราจะใช้กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นจากการเดินไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ควรใช้เทคนิคนี้ในน้ำทะเล

 

ไถ ๆ สไลด์ไปข้าง ๆ เพื่อกำจัดต้นขา 

หากคุณเบื่อ คุณลองเปลี่ยนจากเดินถอยหลังเป็นการก้าวยาว ๆ ไปด้านข้างเพื่อกระชับต้นขาทั้งด้านนอกและด้านใน พอลงสระน้ำแล้วให้ไปที่ความลึกระดับเอว และก้าวไปด้านข้างของอีกฝั่ง พยายามให้น้ำกระเพื่อมน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

จะเห็นได้ว่ากิจกรรมธรรมดา ๆ ก็สามารถเปลี่ยนมุมมองของการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป ขอให้คุณใช้เวลาพักผ่อนให้เต็มที่และได้สุขภาพกายและใจที่ดีกลับมาพร้อมต่อสู้อีกครั้ง

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : todayhealth.(2009).เที่ยวสนุก… ได้หุ่นดีเป็นของแถม.11 ธันวาคม 2558.
แหล่งที่มา : http://www.todayhealth.org/daily-health/บทความสุขภาพ/เที่ยวไปด้วย-หุ่นดีเป็นของแถม.html
ภาพประกอบจาก : www.media.photobucket.com


-แก้ปัญหานอนไม่หลับ.jpg

การนอนหลับอย่างพอเพียงและเต็มอิ่ม ล้วนมีแต่ผลดีต่อสุขภาพ แต่การจะได้นอน 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน อาจกลายเป็นเรื่องยากสำหรับบางคน เพราะมีผลต่อเนื่องมาจากไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตแบบผิด ๆ ซึ่งอาจทำให้ตารางการนอนของคุณแปรปรวน ติดขัด นอนไม่หลับ นอนไม่พอ ง่วงในเวลาที่ควรตื่นและตื่นในเวลาที่ควรนอน เพราะฉะนั้น มาเริ่มต้นแก้ไขกันตั้งแต่ต้นเหตุ เพื่อสุขภาพการนอนหลับที่ดี 

 

ตื่นนอนให้เป็นเวลา

การตื่นนอนในเวลาเดียวกันเป็นประจำร่างกายจะเกิดการจดจำ ไม่สับสน ทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า อารมณ์แจ่มใส จากเรื่องนอนหลับอย่างมีคุณภาพ การเลือกนอนต่อ แม้ว่าได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก อาจส่งผลเสียต่อรอบของวงจรการนอนหลับของคุณได้ เพราะฉะนั้นควรตัดใจ ไม่อิดออดและตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน

 

“ชั่วโมงแรกของวัน” จัดเป็นชั่วโมงทอง

ภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังจากตื่นนอน จะเป็นช่วงที่เหมาะสมกับการเตรียมร่างกายให้พร้อมในการทำภารกิจประจำวัน คุณอาจเริ่มด้วยการดื่มน้ำซักแก้วออกกำลังกายเบา ๆ สัก 20 – 60 นาที หรือเดินเล่นรับแสงอาทิตย์ยามเช้า เพื่อให้ร่างกายตื่นตัวอย่างเต็มที่

 

รับประทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์

มีหลาย ๆ การศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการรับประทานอาหารเช้าดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีเวลามากน้อยแค่ไหน คุณยังจำเป็นต้องจัดเวลา จัดหาวิธีการที่จะทำให้คุณรับประทานอาหารเช้าที่มีคุณค่าของสารอาหารครบเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ และอย่าลืมทานอาหารครบ 5 หมู่ในมื้ออื่น ๆ ด้วย

 

กาแฟแก้วแรก ควรห่างจากเวลาตื่นนอน

หากคุณดื่มกาแฟเป็นประจำทุกเช้า คุณควรดื่มกาแฟหลังจากตื่นนอนอย่างน้อย 90 นาที เพราะถ้าหากช่วงเวลาดังกล่าวสั้นกว่านั้น เช่น ตื่นนอนแล้วดื่มกาแฟเลย แทนที่คาเฟอีนจะช่วยกระตุ้นให้คุณตื่นได้อย่างเต็มตา มันอาจให้ผลในทางตรงข้ามได้

 

ดื่มน้ำตลอดวัน

คุณอาจจะทำงานเพลินไปหน่อย หรือลุกเดินอยู่เรื่อย ๆ อย่าลืมแวะเติมน้ำสะอาด ๆ เข้าร่างกายตลอดทั้งวัน เพื่อสุขภาพที่ดีและการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ

 

ทานอาหารเที่ยง อย่างมีคุณภาพ

แน่นอนคุณยังต้องใช้พลังงานในช่วงบ่าย การเลือกอาหารชนิดที่ทำให้อิ่มได้นานและแคลอรี่ต่ำ เป็นสิ่งที่แนะนำ เช่น  สุกี้ ต้มยำ เกาเหลา อกไก่ ถ้าเป็นไปได้การทานอาหารเที่ยง พร้อมรับแสงแดดและอากาศสดชื่น จัดเป็นวิธีฟื้นฟูความเหนื่อยล้าได้อีกทาง

 

หาเวลาเดิน เพื่อช่วยย่อยอาหาร

อย่าลืมหาเวลาเดินหลังจากอิ่มบ้าง การรีบกลับมานั่งหลังขดหลังแข็งทำงานต่อในช่วงบ่าย อาจทำให้การทำงานของระบบย่อยอาหารมีปัญหาได้ หมั่นขยับร่างกายอย่างสม่ำเสมอ จะนำคุณไปสู่การนอนหลับได้อย่างดีในเวลากลางคืน

 

หลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีน หรือชาเขียวในช่วงบ่าย

พยายามหลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีน ชาเขียว เครื่องดื่มชูกำลัง ในช่วงบ่าย สำหรับคาเฟอีน ร่างกายจะใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเผาผลาญ ซึ่งอาจทำให้มันหลงเหลือไปกระทบกับคุณภาพการนอนหลับของคุณ

 

งีบหลับระหว่างวันบ้าง

มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า การงีบหลับสั้น ๆ ยามบ่ายสัก 20 – 30 นาที จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับสมองรวมถึงร่างกายของคุณ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังมีความแตกต่างระหว่างคน รวมถึงความสะดวกในการทำ ทั้งนี้ การงีบหลับถ้านานเกินไป ก็อาจส่งผลกระทบต่อวงจรการนอนหลับ ทำให้กลางคืนนอนไม่หลับ เกิดสภาพนอนไม่พอเวลากลางวันได้

 

วิตามินและอาหารเสริม ช่วยการนอนหลับ

สำหรับผู้ที่เหมาะสม การทานวิตามินและอาหารเสริมอาจช่วยเรื่องการนอนของคุณ อย่างไรก็ตามควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประโยชน์สูงสุดในการทาน

 

แบ่งเวลาการทำงานกับการพักผ่อน

รีบทำงานให้เสร็จสิ้นในเวลางาน แล้วใช้เวลาเพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ควรทำงานอย่างต่อเนื่องจนเกินไป สมองอาจเบลอ ร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยล้าจนอาจทำให้วงจรการนอนหลับผิดเพี้ยน เช่นเดียวกัน อาจทำให้เกิดสภาพกลางคืนนอนไม่หลับ กลางวัยเกิดอาการนอนไม่พอได้

 

ทานอาหารมื้อเย็นเสร็จอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน

เพื่อการย่อยอาหารที่มีประสิทธิภาพ ไม่อึดอัดเวลานอน และไม่เสี่ยงในการเป็นโรคกรดไหลย้อนคุณจะไม่มีความสุขในการนอนเลยถ้ามีอาหารเต็มอยู่ในระบบย่อยอาหารขณะนอน

 

หยุดใช้โทรศัพท์ก่อนเข้านอน

จริง ๆ หมายรวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด คุณควรปิดก่อนเข้านอนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพราะแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์เหล่านั้นจะทำให้สมองของคุณหยุดสร้างฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายเตรียมตัวสำหรับการพักผ่อน ผลคือคุณอาจรู้สึกตื่นตัว จนนอนไม่หลับ

 

อ่านหนังสือก่อนนอน

เพื่อเสริมสร้างสมาธิ ทำให้สามารถนอนหลับได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

 

หากคุณทำทุกข้ออย่างครบถ้วน แต่การนอนหลับของคุณยังคงได้ไม่ดี ควรไปพบและปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางแก้ไข ดีกว่าปล่อยไว้นะคะ

 

เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
แหล่งที่มา www.prevention.com
ภาพประกอบ www.freepik.com


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก