5 วิตามินและอาหารเสริมสำหรับมนุษย์เงินเดือน
วัฒนธรรมการทำงานออฟฟิศในปัจจุบันแม้จะอำนวยความสะดวกให้แก่ชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมากแต่ก็สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพแก่คนทำงานหรือมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งนอกจากสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจแล้ว ร่างกายของเรายังขาด ” วิตามิน ” และได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ไม่เพียงพอ ทำให้บ่มเพาะนิสัยการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้อง มีปัญหาสุขภาพและขาดสารอาหารตามมาเป็นลำดับ ดังนั้นนอกจากการปรับพฤติกรรมแล้ว วิตามิน กับ อาหารเสริมต่าง ๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่เหมาะแก่วัยทำงาน
วิตามิน และ อาหารเสริมสำหรับมนุษย์เงินเดือน
1.วิตามินซี (Vitamin C)
จากการศึกษาพบว่าผู้ที่มีความเครียดสะสมทางร่างกายและจิตใจมีแนวโน้มต้องการวิตามินซีเสริม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ วิตามินซีเป็นหนึ่งในกลุ่มแอนตี้อ็อกซิแดนซ์ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง อีกทั้งยังเป็นวิตามินที่สามารถละลายน้ำได้ จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องตกค้างในกลุ่มผู้ที่บริโภควิตามินซีเป็นประจำ อีกทั้งวิตามินซียังทำงานร่วมกับวิตามินเอในเรื่องการบำรุงสุขภาพสายตาให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคต้อซึ่งเกิดจากการจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานติดต่อกันได้ด้วย
2.วิตามินบี (Vitamin B)
วิตามินบีเป็นวิตามินที่สามารถพบได้ในอาหารหลากหลายหมู่ ไม่ว่าจะเป็นถั่ว, ธัญพืช, กล้วย หรือแม้แต่เนื้อสัตว์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นวิตามินที่คนส่วนใหญ่ขาด จากการรับประทานอาหารไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ เน้นอาหารสำเร็จรูปและอาหารที่ผ่านการแปรรูปซึ่งทำให้คุณประโยชน์ของวิตามินบีพร่องไปด้วย วิตามินบีมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายและระบบเลือด บำรุงสมอง ทำให้ทำงานอย่างลื่นไหล ใครมีปัญหาหลงลืม หรือรู้สึกว่าสมองไม่ค่อยปลอดโปร่ง ลองรับประทานวิตามินบีจะพบว่าสมองสามารถตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น โดยสามารถเลือกรับประทานแบบบีรวมที่มีวิตามินบีครบทุกชนิด
3.วิตามินดี (Vitamin D)
จริง ๆ แล้ววิตามินดีเป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถผลิตเองได้ง่าย ๆ เพียงแค่ออกไปรับแดดตอนเช้า ๆ ซักหน่อย แต่ในความเป็นจริงที่เกิดขึ้นคือวิถีชีวิตของเราไม่ได้เอื้ออำนวยมากนัก ออฟฟิศส่วนใหญ่เป็นตึกมิดชิด จากการศึกษาพบว่าการขาดวิตามินดีอาจไม่เพียงส่งผลต่อความแข็งแรงของกระดูกเท่านั้น ยังอาจนำไปสู่โรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย วิตามินดีและแคลเซียมถือเป็นคู่หูของกันและกัน นอกจากการรับประทานวิตามินดีเสริมแล้วเรายังสามารถปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตช่วยได้ด้วย เช่น ออกกำลังกายในสวนสาธารณะตอนเช้า หรือหาโอกาสนั่งกินข้าวเที่ยงในร้านอาหารแบบ Out-door บ้าง เป็นต้น
4.วิตามินเอ (Vitamin A)
ถ้าพูดถึงวิตามินเอ แน่นอนว่าทุกคนจะนึกถึงสรรพคุณในเรื่องการบำรุงสายตา ซึ่งขาดไปไม่ได้เลยกับพนักงานออฟฟิศที่ใช้เวลาถึง 8 ชั่วโมงต่อวันในการอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ วิตามินเอมักพบในอาหารจำพวกเครื่องใน ไข่แดง ผักโขม รวมไปถึงผักผลไม้สีเหลือง เป็นต้น ในกรณีที่คุณใช้สายตาหนักมาก การเสริมอาหารด้วยวิตามินเอแบบเม็ดที่ขายกันตามร้านขายยาก็ช่วยได้ แต่เนื่องจากวิตามินเอเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันซึ่งอาจส่งผลข้างเคียงเมื่อตกค้างในร่างกาย ดังนั้นจึงควรอ่านฉลากยาอย่างเคร่งครัดถึงข้อปฏิบัติและข้อยกเว้นต่าง ๆ
5.น้ำมันปลา (Fish Oil)
น้ำมันปลา Fish oil นี้สกัดจากเนื้อปลา คนละอย่างกับน้ำมันตับปลาที่สกัดจากตับปลา อีกทั้งยังให้คุณประโยชน์ทางยาที่ต่างกัน โดยการทานน้ำมันปลา จะหวังผลในเรื่องไขมันดีอย่าง โอเมก้า-3 เป็นหลัก ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดข้อมือและข้อนิ้วที่มักพบในคนทำงานได้ อาหารที่อุดมด้วยโอเมก้า-3 ได้แก่ปลาแซลมอน และอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มโอเมก้า-3 ให้แก่ร่างกายคือการรับประทานน้ำมันปลาในรูปแบบแคปซูลนั่นเอง
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
แหล่งที่มา : www.holtraceuticals.com www.highachieverdiet.com www.ncbi.nlm.nih.gov
ภาพประกอบจาก : www.freepik.com