ข้อควรรู้ เมื่อประสบภัยจากรถ
![ข้อควรรู้ เมื่อประสบภัยจากรถ](https://www.health2click.com/wp-content/uploads/2018/03/ข้อควรรู้-เมื่อประสบภัยจากรถ.jpg)
ข้อควรรู้เมื่อประสบภัยจากรถ ประชาชนทุกคนที่ได้รับอุบัติเหตุจากรถ จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ไม่ว่าผู้ประสบภัยนั้นจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน ในรถหรือนอกรถ เป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร เจ้าของรถ คนเดินถนน หากได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตอันเนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถ จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
การที่รัฐออกกฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องจัดให้มีประกันภัย อย่างน้อยที่สุด คือ การทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ประสบภัยจากรถ ที่ได้รับบาดเจ็บ/เสียชีวิต เพราะเหตุประสบภัยจากรถ โดยให้ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที กรณีบาดเจ็บ หรือช่วยเป็นค่าปลงศพกรณีเสียชีวิต เป็นหลักประกันให้กับโรงพยาบาล/สถานพยาบาลว่าจะได้รับค่ารักษาพยาบาล ในการรับรักษาพยาบาลผู้ประสบภัยจากรถ และเป็นสวัสดิการสงเคราะห์ที่รัฐมอบให้แก่ประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย เพราะเหตุประสบภัยจากรถ ส่งเสริมและสนับสนุนให้การประกันภัยเข้ามามีส่วนร่วมในการบรรเทาความเดือนร้อน แก่ผู้ประสบภัยและครอบครัว
ข้อพึงปฏิบัติเมื่อประสบภัยจากรถ
เมื่ออุบัติเหตุรถยนต์เกิดขึ้น ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ หรือผู้พบเห็นควรปฏิบัติ ดังนี้
- กรณีมีผู้บาดเจ็บ
- นำคนเจ็บเข้ารักษาพยาบาลในสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด และสะดวกที่สุดก่อน
- แจ้งเหตุที่เกิดให้ตำรวจทราบ และขอสำเนาประจำวันตำรวจเก็บไว้
- แจ้งเหตุบริษัทประกันภัยทราบ แจ้งวัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ
- เตรียมเอกสาร ถ่ายสำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถคันเกิดเหตุ ภาพถ่ายสำเนาบัตรประชาชน หรือหลักฐานอื่นใดที่ออกโดยราชการ กรณีเมื่อเรียกร้องค่าเสียหาย
- ให้ชื่อ ที่อยู่ ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์เพื่อช่วยเหลือในการเป็นพยานให้แก่คนเจ็บ
- การยื่นขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นผ่านโรงพยาบาล
เมื่อความเสียหายเกิดขึ้นแก่ผู้ประสบภัย ให้เตรียมเอกสาร ดังนี้
- สำเนากรมธรรม์ของรถ (ใบเสร็จรับเงินจากบริษัทประกัน)
- สำเนาใบบันทึกประจำวันของตำรวจประทับตราโล่ และสำเนาถูกต้องเอกสาร
- สำเนาคู่มือรถหน้าจดทะเบียน และหน้ารายการเสียภาษี หรือสำเนาสัญญาซื้อขาย (สมุดเขียว/น้ำเงิน)
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ประสบภัย
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ประสบภัย
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ
- สำเนาบัตรทะเบียนบ้านเจ้าของรถอย่างละ 2 ชุด
มีสิทธิข้าราชการ อุบัติเหตุจากรถ ต้องใช้สิทธิไหนก่อน?
เมื่อผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเข้ามารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลรามาธิบดี ตามนัยมาตรา 9 แห่งพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2535 ของระบบราชการ ต้องใช้สิทธิ พ.ร.บ. ผู้ประสบภัยจากรถ
มีสิทธิบัตรประกันสุขภาพ อุบัติเหตุจากรถ จะใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพก่อนโดยไม่ใช้ พ.ร.บ. ผู้ประสบภัยจากรถได้หรือไม่?
ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยหลักประกันสุขภาพ พ.ศ. 2540 ต้องใช้สิทธิตาม พ.ร.บ. ผู้ประสบภัยจากรถก่อน
การเบิกค่าเสียหายเบื้องต้น ผู้ประสบภัยมากับรถคันไหนให้เบิกค่าเสียหายเบื้องต้นจากรถคันนั้น แต่ถ้าผู้ประสบภัยเป็นบุคคลภายนอกให้เบิกค่าเสียหายเบื้อต้นจากรถที่เกิดเหตุ (หรือเบิกจากกองทุนเงินทดแทน)
ดังนั้น กรณีที่มีผู้ประสบภัยจากรถ ท่านสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน โดยที่ท่านจะรับการรักษาด้วยความสะดวกรวดเร็วไม่น้อยกว่ามาตรฐานของโรงพยาบาล เมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลผู้ประสบภัย หรือญาติ จะต้องแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และให้ญาติเตรียมเอกสารดังกล่าวข้างต้นให้กับโรงพยาบาล โดยโรงพยาบาลจะเป็นผู้ตั้งเบิกต่อบริษัทประกันแทนผู้ประสบภัย ตามค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจริง ไม่เกิน 30,000 บาท โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
วงเงินความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.
- ค่าเสียหายเบื้องต้น หมายถึง ค่าเสียหายต่อชีวิต – ร่างกายของผู้ประสบภัย อันเนื่องจากการใช้รถที่บริษัทประกันภัยต้องจ่าย โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความรับผิด และให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าสินไหมทดแทน
1. ค่ารักษาพยาบาล ไม่เกิน 30,000 บาท
2. ค่าทุพพลภาพ/สูญเสียอวัยวะ หรือค่าปลงศพตามข้อ 1, 2 รวมกันแล้วไม่เกิน 65,000 บาท ในชั้นต้น 35,000 บาท
- ค่าสินไหมทดแทนสูงสุด (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น) หมายถึง ค่าสินไหมทดแทนสำหรับความเสียหายต่อชีวิต – ร่างกายของผู้ประสบภัยจากรถที่บริษัทประกันภัยต้องจ่ายเมื่ออุบัติเหตุจากรถนั้นเป็นความผิดของผู้ขับขี่รถที่เอาประกันภัย
1. กรณีบาดเจ็บ ไม่เกิน 80,000 บาท
2. กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร 300,000 บาท
3. สูญเสียอวัยวะ
• นิ้วขาด 1 ข้อขึ้นไป 200,000 บาท
• สูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน 250,000 บาท
• สูญเสียอวัยวะ 2 ส่วน 300,000 บาท
4. ค่าชดเชยการรักษาตัว (ผู้ป่วยใน) 200 บาทต่อวัน ไม่เกิน 20 วัน 4,000 บาท
* ยกเว้น ผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายผิดจะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น
หมายเหตุ สำหรับกรมธรรม์ที่เกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 เป็นต้นไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: https://med.mahidol.ac.th
ภาพประกอบจาก: www.psh.go.th