จากอุบัติเหตุเอ็นเข่าฉีก สู่การชาเล้นท์ตัวเอง
ดูวิดีโอสัมภาษณ์ “คลิก”
แนะนำตัว
สวัสดีครับ ชื่ออ้น – กนิษฐ์ ศรีสุวรรณ ปัจจุบันอายุ 39 ปีครับ เป็นพนักงานราชการ ทำงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโสนโยบายและแผน สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสครับ
แรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพ
ปกติเราก็มีการเล่นฟุตบอลกับเพื่อน อาทิตย์นึงประมาณ 1 – 2 ครั้ง วันนึงเราเกิดอุบัติเหตุทำให้เอ็นหัวเข่าพลิกขาดก็เลยต้องกลับมาฟื้นฟูดูแลสุขภาพตัวเองใหม่ หลังจากเข้ารับการผ่าตัด พักฟื้น เข้าเฝือก ประมาณ 6 เดือน คุณหมอก็แนะนำให้ไปทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อส่วนของต้นขาเพื่อชดเชยส่วนของเอ็นหัวเข่าที่ขาดด้วยการปั่นจักรยาน ประมาณ 1 ปี จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และสามารถเล่นกีฬาได้
พอเริ่มปั่นจักรยานมาได้ปีกว่า ๆ ก็รู้สึกเบื่อ เราก็เลยเปลี่ยนเป็นการออกไปวิ่ง การวิ่งครั้งแรกของผมคือการวิ่งรอบสนามฟุตบอล ประมาณ 4 รอบก็รู้สึกเหนื่อยมาก เหนื่อยกว่าปั่นจักรยานอีก แต่พอวิ่งแล้วเราก็รู้สึกดี ความรู้สึกใหม่ ๆ ได้สัมผัสอากาศ บรรยากาศข้างนอกมากขึ้น พอวิ่งมาก ๆ ร่างกายก็เริ่มสนุกกับการวิ่ง ก็วิ่งได้ระยะมากขึ้น จนเพื่อนชวนไปวิ่งในงานมินิมาราธอนครั้งแรก 10 กิโลเมตร พอไปเจอบรรยากาศที่คนวิ่งเยอะ มันตื่นเต้น มันสนุก ทำให้เราอยากวิ่งอีก ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเลือกการวิ่งเป็นการดูแลสุขภาพ วิ่งต่อเนื่องมาตลอด 3 ปีละครับ
วิธีการออกกำลังกายในปัจจุบัน
ผมก็วิ่งเกือบทุกวัน ด้วยความที่เราหนีปัญหาการจราจร ผมก็จะมาถึงเช้าก็เลยมีเวลาวิ่ง ก็วิ่งทุกเช้าครับ ประมาณ 5 – 7 กิโลเมตร ถ้าวันไหนมาถึงเร็วก็ได้วิ่งเยอะหน่อย 8-10 กิโลเมตร ผมใช้เวลาวิ่งประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วก็ยืดหยุ่นกล้ามเนื้อประมาณ 20 – 30 นาทีครับ ผมจะชอบวิ่งข้างนอก เพราะมันได้สัมผัสบรรยากาศจริง วันไหนอากาศดีหน่อยก็ถือว่าเป็นกำไร วันไหนอากาศร้อนก็ถือว่าเป็นการฝึกทนต่ออากาศร้อนเวลาเราไปวิ่งมาราธอนครับ
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากการวิ่งอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่ได้รับรู้ ที่เห็นได้ชัดจากการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าเป็นผลที่เกิดจากการลงทุนกับตัวเอง เราเอาร่างกายเรามาทำให้แข็งแรงขึ้น อาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ก็หายไป สองคือผลการตรวจสุขภาพเป็นที่ยืนยันว่า 3 ปีหลังที่เราวิ่งอย่างต่อเนื่องช่วยเราได้มาก ทั้งคอเลสเตอรอล ไขมัน น้ำตาล อันนี้อยู่ในเกณฑ์ปกติ สามคืออาการที่ผมเคยบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าที่ฉีกขาด ปัจจุบันก็ใช้ชีวิตได้โดยปกติ อีกด้านนึงก็ได้พบกับสังคมเพื่อนนักวิ่ง กลุ่มก๊วนที่จะไปวิ่งด้วยกัน กลุ่มอาสาที่จะไปช่วยงานวิ่งอย่างการเป็นเพเซอร์ (Pacer) สวีพเปอร์ (Sweeper) และแฟนซี (Fancy) เรียกว่าเป็นกลุ่มสังคมใหม่ เพื่อนใหม่ครับ ก็คือได้ทั้งสุขภาพของตัวและสังคมใหม่ เพื่อนใหม่ด้วย
การที่เราออกมาสู้กับใจตัวเองว่าให้ออกไปวิ่งเถอะ
ไปออกกำลังกายเถอะ มันอาจจะยากตอนเริ่มต้น
แต่พอเริ่มต้นแล้วผมคิดว่ามันให้ประโยชน์ทั้งสุขภาพ
ของตัวเองและได้สังคมเพื่อนฝูง
ความลำบากหรืออุปสรรคในการออกกำลังกาย
มันเป็นเรื่องของจิตใจ ความขี้เกียจ ความเบื่อ แน่นอนว่าใครที่ออกกำลังกายใหม่ ๆ จะเริ่มเป็น มันเป็นเรื่องปกติ ถ้าเราทำมันด้วยความรู้สึกที่ยังไม่ได้ชอบ ยังไม่ได้รู้สึกสนุกับมัน มันจะมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ถ้าเราทำด้วยความชอบ เราเห็นประโยชน์จากมันจริง ๆ พอเราเห็นผลที่ได้จากการออกกำลังกาย เราจะก้าวข้ามผ่านความเบื่อ ความขี้เกียจจะหายไปเอง
เป้าหมายการออกกำลังกาย
ผมสามารถวิ่งได้ระยะมินิมาราธอน ฮาฟมาราธอน มาราธอนได้แล้ว ปัจจุบันระยะที่ผมวิ่งได้อย่างเป็นทางการก็ประมาณ 66 กิโลเมตร ปลายปีนี้ก็ตั้งเป้าว่าจะวิ่งให้ได้สัก 100 กิโลเมตร ก็เป็นลักษณะของการวิ่งเทรล (Trial) วิ่งในสภาพภูมิประเทศที่เป็นธรรมชาติ ก็เป็นเป้าหมายที่เราตั้งใจอยากจะท้าทายตัวเองครับ
โปรแกรมการออกกำลังกายตอนนี้คือผมวิ่งทุกเช้าอยู่แล้วครับก็เป็นการซ้อมโดยปกติ แต่สิ่งที่อยากเพิ่มคือการเวทเทรนนิ่ง การไปซ้อมในสภาพภูมิประเทศจริง คือการวิ่งขึ้นเขาก็น่าจะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้ ก็ต้องมีการวางแผนการซ้อมให้มากขึ้นด้วย เพราะมันก็คงไม่ง่ายที่เราจะไปให้ถึง 100 กิโลเมตร แต่ผมคิดว่าเราสามารถทำได้ เราแค่วางโปรแกรมให้ดี ให้ชัด แล้วก็ฝึกซ้อมตามโปรแกรมที่กำหนดครับ
การวิ่งทำให้เราได้เห็นมุมมองต่าง ๆ ได้เห็นวิถีชีวิต
ได้เห็นผู้คน พอมันเป็นความชอบมันเกิดเป็นสิ่งที่เรา
อยากจะทำมันก็จะไม่รู้สึกฝืน แต่มันเป็นสิ่งที่เราทำแล้ว
เราได้ประโยชน์
เทคนิคในการดูแลสุขภาพ
หลัก ๆ เลยคือการที่เราชอบหรือสนุกกับมัน โดยที่เราไม่ต้องฝืนตัวเองเลย เราต้องหาความชอบของเราก่อนว่าเราชอบออกกำลังกายด้วยวิธีไหน แล้วก็หาความสนุกจากมัน การวิ่งก็ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศใหม่ ๆ มุมมองใหม่ ๆ จากที่เคยขับรถผ่านก็ลองมาวิ่งผ่านดู มันก็จะเป็นอารมณ์นึง ถ้าเราชอบวิธีการแบบนี้ก็จะทำใหเราสนุกกับมันมากขึ้นครับ
แนะนำคนที่สนใจออกกำลังกาย
สำหรับคนที่อยากจะเริ่มออกกำลังกาย ลองเริ่มออกไปเดินก่อนก็ได้ครับ สัก 1 กิโลเมตร สัก 10-15 นาที แล้วก็เดินให้เร็วขึ้น อาจจะเริ่มวิ่งสั้น ๆ วิ่งสลับเดิน ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายและทำได้ทันทีครับ พอเดินให้เร็วขึ้น หัวใจทำงานมากขึ้นก็ทำให้เราสุขภาพดี แต่ถ้าเดินแล้ว วิ่งแล้วไม่ชอบ ลองหากิจกรรมอื่น ๆ ที่ทำให้เราออกแรงมากขึ้น และเป็นสิ่งที่มีประโยชน์