ครบเครื่องการดูแลสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ การป้องกันโรค การเงินเพื่อสุขภาพ สำหรับวัยทำงาน

.jpg

ปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำลายสุขภาพจิตของหลาย ๆ คน ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงก็ประสบปัญหาเหมือนกัน ปกติแล้วโรคผมร่วงผมบาง เป็นโรคที่พบบ่อยมากในผู้ชายพบได้ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ และผู้หญิงพบได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ผมร่วงเปรียบเสมือนกระจกส่องสุขภาพ หากมีปัญหาผมร่วง นั่นเท่ากับว่ากำลังมีปัญหาด้านสุขภาพอื่น ๆ  ด้วย จึงควรจะรีบมารักษาและหาสาเหตุ ปัญหาผมบางศีรษะล้าน ส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรมที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้การจัดการกับปัญหานั้นแลดูจะเป็นเรื่องยาก แต่ด้วยการแพทย์สมัยใหม่ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ เรื่องเส้นผมก็เช่นเดียวกัน

 

นวัตกรรมฉีดเกล็ดเลือดเพื่อปลูกผม

นวัตกรรมการฉีดเกล็ดเลือดเพื่อปลูกผมหรือที่เรียกว่า PRP or Platelet Rich Plasma (พลาสมาที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้น) เป็นการฟื้นฟูผมให้เส้นหนา และแข็งแรงขึ้น โดยการเจาะเลือดแล้วนำมาปั่นแยกส่วนที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้นออกมา เกล็ดเลือดนอกจากทำหน้าที่หยุดเลือด แล้วยังมีสารโกรท แฟคเตอร์ (growth factor) ต่าง ๆ อยู่เป็นปริมาณมาก ซึ่ง growth factors เหล่านี้จะช่วยสร้างและส่งเสริมการสร้างเส้นเลือด กระตุ้นการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของเซลล์เส้นผม โดยเฉพาะเซลล์เดอร์มอล พาพิลาบริเวณรากผมและสเต็มเซลล์รากผม เซลล์ผิวหนัง เซลล์กระดูก ช่วยให้แผลสมานได้เร็วขึ้น ด้วยเทคนิคการปั่นแยก PRP ที่จำเพาะ จะทำให้ได้ PRP ที่มีปริมาณเกล็ดเลือดเข้มข้นกว่าเกล็ดเลือดในกระแสโลหิตทั่วไป 3 – 5 เท่า โดยเกล็ดเลือดเข้มข้นที่เหมาะสมในการใช้รักษาเพื่อการปลูกผม ควรมีปริมาณเกล็ดเลือดประมาณ 1,000,000 หน่วยต่อไมโครลิตร

 

 

ขั้นตอนการทำสำหรับผู้เริ่มต้น

  • เริ่มต้นจากนำผู้ป่วยมาเจาะเลือดจากแขนประมาณ ในปริมาณประมาณ 60 – 100 ซีซี แล้วนำไปปั่นในเครื่อง centrifuge ด้วยวิธีพิเศษที่เรียกว่า double spin technique แยกนำส่วนที่เรียกว่า PRP มา ซึ่งมีโกรทแฟคเตอร์ปริมาณมาก
  • นำมาฉีดบริเวณหนังศีรษะที่มีปัญหาผมบาง โดยก่อนฉีด PRP จะมีการฉีดยาชาและทำการกระตุ้นหนังศีรษะด้วย derma stamp (micro needling system) ก่อน โดยปกติแพทย์จะแนะนำให้ทำการรักษาด้วย PRP เดือนละ 1 ครั้ง จำนวน 3 ครั้ง ติดกันหลังจากนั้นจะมีการติดตามผลการรักษาประมาณ 3 – 4 เดือนโดยติดตามการรักษาโดยภาพถ่ายทางคลินิก และภาพถ่ายขยายจากกล้อง dermoscope

 

ข้อดี

  1. เป็นนวัตการรมที่ปลอดภัยสูง เนื่องจากไม่ได้มีการใช้สารเคมีอื่นใด มีโอกาสแพ้น้อยมากเพราะเป็นเลือดของตัวเราเอง
  2. สามารถกระตุ้นทำให้รากผมของผู้ป่วย หากได้รับการรักษาแบบปกติแล้วไม่ดีขึ้น หรือใช้เป็นการรักษาเสริมเข้ามาเพื่อชะลอการหลุดร่วงของเส้นผม ช่วยให้ผมกลับขึ้นมาใหม่ได้เร็วขึ้น
  3. นอกจากนี้เมื่อฉีด PRP ร่วมกับการปลูกผม จะช่วยทำให้ผลการปลูกผมดีขึ้น แผลหายเร็วและแผลเป็นน้อยหรือเล็กลง PRP เองยังสามารถใช้ร่วมกับวิธีการรักษาอย่างอื่นได้ เช่น การทำเลเซอร์ ทรีทเมนท์ วิตามินและยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ผลข้างเคียงอาจมีอาการเจ็บบริเวณที่ฉีด ผิวหนังแดงแสบ หน้าบวมจากการฉีดเข้าหนังศีรษะบ้าง แต่ไม่นานก็หายเป็นปกติ

ประโยชน์ของการทำ PRP นอกจากจะนำมาใช้ในการปลูกผมเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจแล้ว เสริมบุคลิกภาพของคนที่เกิดปัญหาด้านเส้นผม ที่เกิดความอับอาย ขาดความเชื่อมั่น มีผลต่ออาชีพการงานและไม่กล้าเข้าสังคม การทำ PRP จึงเป็นทางเลือกใหม่ ในปัจจุบันมีการนำ PRP มาใช้ทางการแพทย์ในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬาฯ ช่วยให้อาการบาดเจ็บของนักกีฬาหายเร็วขึ้น รวมทั้งอาการ ข้อ เอ็น กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง ส่วนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อนำ PRP มาช่วยทำให้กระดูกติดเร็วขึ้น แผลหรือเนื้อเยื่อสมานได้เร็วขึ้น ส่วนในวงการทันตแพทย์ใช้ใช้ PRP ในการฝังรากเทียม แพทย์ผิวหนังใช้ในการทำให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์วัย ลบริ้วรอยความเหี่ยวย่นบนใบหน้า

 


ภาพประกอบจาก : www.freepik.com

 

 

 


.jpg

เรามักจะเชื่อมโยงเรื่องผมหงอกกับความแก่ชรา หากเห็นผมสีเทาอันแปลกปลอมแทรกอยู่ในช่วงอายุที่ไม่น่าจะมี ก็ไม่แปลกหากคุณจะเกิดคำถามมากมายอย่าง…ผมหงอกก่อนวัยแบบนี้จะเป็นสัญญาณเกี่ยวกับสุขภาพภายในหรือเปล่า มาค้นหาคำตอบเกี่ยวกับความจริงของเส้นผมและการเปลี่ยนสีกัน

 

ผมเริ่มหงอกตอนไหน

แพทย์ผิวหนังได้ออกมาเผยว่าการเปลี่ยนสีของผมมักเกี่ยวข้องกับช่วงอายุโดยเกี่ยวข้องกับเม็ดสีเมลาโนไซต์ในเกล็ดผม ซึ่งเป็นเซลล์ตัวเดียวกันกับเซลล์ที่ทำหน้าที่ผลิตเม็ดสีในผิวหนัง เมื่อพวกมันค่อย ๆ หยุดการผลิตเม็ดสี ผมในช่วงแรกจะเป็นสีเทา ก่อนจะกลายเป็นสีขาวตามลำดับ ซึ่งกระบวนการนี้ไม่ได้กระทบกับ Keratinocytes ซึ่งทำหน้าที่ผลิตเส้นใยผม นั่นแปลว่าสีไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างในเส้นผมใด ๆ อย่างไรก็ตามคุณอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเนื้อสัมผัสของเส้นผมของคุณได้ เช่น ความหยาบหรือแข็งกระด้าง โดยการเปลี่ยนแปลงของสีผมก็ไม่ได้เปลี่ยนในช่วงอายุที่เท่ากันทุกคน เช่น ผมของคุณอาจเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาได้ในช่วงวัย 30 แต่เพื่อนของคุณยังคงมีผมที่ดกดำและเงางาม ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

นอกจากนั้นผู้เชี่ยวชาญยังได้กล่าวไว้ว่า ร้อยละ 90 ของเหตุผลในการเปลี่ยนเป็นสีเทาของเส้นผม สามารถอธิบายได้ด้วยปัจจัยทางพันธุกรรม แต่เราก็ยังคงมีความรู้ที่จำกัดเกี่ยวกับเรื่องยีนส์ที่ส่งผลถึงเรื่องนี้ นั่นเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่เชื้อชาติของคุณเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนสีของผม โดยอายุเฉลี่ยที่ผมเริ่มจะเป็นสีเทาคือ ช่วงกลางวัย 30 สำหรับชนชาติคอเคเซียน ปลายช่วงวัย 30 ในชาวเอเชีย และช่วงวัย 40 กลางสำหรับ Afro-Caribbeans  และประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้คน จะมีผมสีเทาประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหัวเมื่ออายุอยู่ในช่วงวัย 50 ปี

 

ผมหงอกก่อนวัยอันควรบอกถึงปัญหาสุขภาพหรือไม่

นี่เป็นคำถามที่พบได้บ่อยและเป็นคำถามที่นักวิจัยพยายามหาคำตอบ โดยมีหลักฐานบางอย่างว่าการเกิดผมหงอกก่อนวัย สามารถบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพบางอย่างได้ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับหัวใจของคุณ

มีการศึกษาที่นำเสนอในการประชุมประจำปีครั้งที่ 69 ของสมาคมโรคหัวใจแห่งอินเดีย พบว่า ผู้ชายที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปีที่มีผมสีเทาก่อนวัย มีโอกาสเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้มากกว่าคนที่ผมยังไม่เปลี่ยนสีในช่วงวัยเดียวกันถึงห้าเท่า ซึ่งการหดตัวของหลอดเลือดแดงอาจนำไปสู่อาการหัวใจวายได้

ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 2012 ผลวิจัยจากสหราชอาณาจักร ได้ชี้แจงว่าการเสื่อมสภาพของเซลล์เม็ดสีที่ทำให้เกิดสีเทา อาจเกิดจากความเครียดจากภาวะการออกซิเดชั่น ซึ่งก็คือกระบวนการทางชีวภาพที่อาจสร้างความเสียหายต่อเซลล์และเนื้อเยื่อที่มีสุขภาพดี ดังนั้นกระบวนการเดียวกันที่เกิดขึ้นในเซลล์ผมของคุณอาจมีโอกาศเกิดขึ้นกับส่วนอื่นในร่างกายของคุณด้วย

แต่อย่าเพิ่งวิตกเกินไป เพราะผลวิจัยของการมีผมสีเทาก่อนวัยอันควรกับปัญหาเกี่ยวกับหัวใจก็ยังไม่ได้มีหลักฐานรองรับที่หนักแน่นมากนัก แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถนิ่งนอนใจโดยไม่ป้องกันหากเกิดผมหงอกจำนวนมากก่อนอายุ 35 ปี ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือพบแพทย์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการลดความเสี่ยงอื่น ๆ สำหรับโรคหัวใจ เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย น้ำหนักที่เหมาะสม ความดันโลหิตสูง หรือคอเลสเตอรอลสูง

 

สรุปแล้วผมหงอกก่อนวัยไม่กี่เส้น อาจไม่ได้เป็นอันตรายหรือมีความเสี่ยงมากในการเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจเท่ากับวิธีการที่ไม่ดีต่อสุขภาพอื่น ๆ เช่น การเพิ่มน้ำหนักมากเกินไป การสูบบุหรี่ การกินอาหารขยะหรือการไม่ออกกำลังกาย และในเมื่อคุณไม่สามารถห้ามหรือควบคุมการหงอกของผมได้ แต่คุณสามารถดูแลปัจจัยอื่น ๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงด้วยกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพต่อไปจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า

 

เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
แหล่งที่มา : www.menshealth.com
ภาพประกอบจาก : www.freepik.com


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก