ครบเครื่องการดูแลสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ การป้องกันโรค การเงินเพื่อสุขภาพ สำหรับวัยทำงาน

s-exercise.jpg

ออกกำลังกายแบบไหนเพิ่มความอึด ทน แกร่ง ความจริงแล้วจำเป็นต้องอาศัยโปรแกรมการออกกำลังกายรูปแบบเฉพาะ นอกเหนือจากการออกกำลังกายที่มีรูปแบบผสม ทั้งแบบคาร์ดิโอ แบบแรงต้าน และแบบเพิ่มความยืดหยุ่น หรือที่เรียกว่า Well – rounded exercise program โดยหากสามารถ รวมทั้ง 2 รูปแบบให้อยู่ในโปรแกรมการฝึก จะให้ผลสูงสุดกับผู้ที่ออกกำลังกาย 

 

ออกกำลังกายเพิ่มความอึด ทน แกร่ง มีดังนี้

  1. การออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา (Interval training)
    เป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่สามารถสร้าง ความอึด ทน แกร่งได้ โดยแบ่งการฝึกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงหนัก จะออกกำลังกายแบบเต็มที่ จนหัวใจขึ้นไปเต้นอยู่ zone 4 – 5 แล้วผ่อนกลับมาออกกำลังกายแบบเบา หรือช่วงเบา โดย หัวใจเต้นอยู่ zone 1 – 2 โดยนับสองช่วงเป็น 1 รอบ ทำต่อเนื่องหลาย ๆ รอบ อ่านเพิ่ม อัตราการเต้นของหัวใจเป้าหมายการฝึกรูปแบบนี้ สามารถนำมาปรับใช้กับการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาได้หลายประเภท เช่น การวิ่งหนักสลับเบา การกระโดดเร็วสลับช้า การชกกระสอบทรายเร็วสลับช้า  วิดพื้น กระโดดแยกขา กระโดดสลับขา โดยทำแบบเร็วสลับช้า เป็นต้น สำหรับประโยชน์ของการฝึกแบบ interval คือ เผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น  ลดไขมันได้ดี เพิ่มกล้ามเนื้อเสริมการเล่นเวทเทรนนิ่ง เพิ่มการใช้ออกซิเจนในกล้ามเนื้อ ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิต ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
  2. การออกกำลังกายแบบหนักปานกลางต่อเนื่อง (Tempo training)
    หลักของการออกกำลังกายรูปแบบนี้คือ ออกกำลังกายแบบเกือบเต็มประสิทธิภาพของร่างกาย โดยหัวใจอยู่ zone 4 ต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม ปกติจะประมาณ 20 – 30 นาที ทำต่อเนื่องหลาย ๆ รอบ อ่านเพิ่ม อัตราการเต้นของหัวใจเป้าหมาย
    หลักการฝึกแบบนี้ สามารถนำมาปรับใช้กับการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาได้หลายประเภท เช่นเดียวกัน อาทิ การวิ่ง การขี่จักรยาน เป็นต้น สำหรับประโยชน์ของการฝึกแบบ Tempo คือ กล้ามเนื้อสามารถใช้ oxygen ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการยกระดับของ Lactate threshold ให้สูงขึ้น ร่างกายคุ้นชินกับระดับกรดแลคติคมากขึ้น  ทำให้ทนต่อความเมื่อยล้าดีขึ้น ออกกำลังกายได้นานขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อความอึด ทน แกร่งของผู้ออกกำลังกาย ถ้าถามว่า ออกกำลังกายแบบไหนเพิ่มความอึด การออกกำลังกายดังกล่าวก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก
  3. การออกกำลังกายแบบสถานี (Circuit training)
    เป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ผสมระหว่างการฝึกเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง เพิ่มความฟิต และเพิ่มความยืดหยุ่น เข้าไว้ด้วยกัน โดยจัดเป็นสถานี แต่ละสถานีมีรูปแบบการออกกำลังกายแตกต่างกัน สามารถปรับหนักเบา รวมถึงการมีรูปแบบที่สอดคล้องกับกีฬาที่เล่น เป็นอีกรูปแบบการออกกำลังกายที่สามารถพัฒนาร่างกายในหลายๆด้านพร้อมกัน ตัวอย่างเช่น การทำ Timed Circuit เป็นการระบุระยะเวลาและจำนวนครั้งในการทำแต่ละท่า การทำ Competition Circuit เน้นการเพิ่มจำนวนครั้งในระยะเวลาเท่าเดิม การทำ Repetition Circuit เน้นการทำซ้ำในแต่ละท่า เป็นต้น

 

เรียบเรียงข้อมูลโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพประกอบจาก: www.freepik.com
แหล่งข้อมูล: www.avarinshop.comwww.runnercart.com

 

 

 

 

 


12-เหตุผล-ทำไมเราต้องเล่นโยคะ.jpg

ฝึกโยคะดียังไง หลายคนก็คงพอจะทราบมาบ้างแล้ว วันนี้ FITALIKA ขอเพิ่มอีก 12 เหตุผล ทำไมเราต้องเล่นโยคะ ที่เด็ดมากพอจะชักจูงเพื่อน ๆ ให้มาลองเล่นโยคะดูสักหน่อย ใครชอบเหตุผลไหนเป็นพิเศษ แอบกระซิบมาบอกกันหน่อยนะคะ

 

เพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย

เหตุผลหลัก ๆ ที่หลายคนหันมาเล่นโยคะก็คงเป็นเรื่องการเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย เชื่อว่าหลายคนไม่อาจก้มตัวลงแล้วแตะปลายนิ้วเท้าตัวเองได้ด้วยซ้ำ (แน่ะ กำลังลองก้มตัวอยู่ใช่มั้ยล่ะ) แต่เชื่อมั้ยว่าหลายคน ๆ หลังจากเล่นโยคะแล้วก็มักทำได้ เพราะโยคะ คือ การฝึกฝนที่เพิ่มความยืดหยุ่นและการเคลื่อนไหวของร่างกาย รวมถึงกล้ามเนื้อ เอ็นยึด และเส้นเอ็นก็จะได้เหยียดยืดและเพิ่มความยืดหยุ่นไปด้วย ยิ่งฝึกก็ยิ่งทำท่าโยคะ ท่าต่าง ๆ ได้ง่ายและดีมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังช่วยลดความปวดต่าง ๆ ของร่างกายได้ด้วยเช่นกัน ทั้งอาการ‎ปวดหลัง คอ ไหล่ ‎ข้อต่อ และปัญหาอาการปวดส่วนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน

 

ลดความเครียด

การฝึกโยคะช่วยให้ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีเลย หายใจเข้าออกและค้นหาความสงบจากภายใน ลองจดจ่ออยู่กับช่วงเวลานั้น ตัดขาดจากความวุ่นวายของโลกภายนอก นั่นแหละที่จะช่วยลดความเครียดให้คุณได้ นอกจากนี้ความวิตกกังวล หดหู่ เหนื่อยล้าสะสม โรคหืด และอาการนอนไม่หลับก็จะค่อย ๆ ลดลงด้วยนะ

 

หายใจได้สะดวกขึ้น

อย่างที่บอกไปแล้ว การฝึกโยคะเน้นเรื่องการหายใจเป็นหลัก หายใจเข้าช้า ๆ หายใจออกช้า ๆ สูดหายใจเข้าลึก ๆ ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ความเครียดที่สะสมในร่างกายลดลง แถมยังช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายได้อีกด้วยค่ะ

 

ลดอาการปวด

เล่นโยคะก็จะช่วยลดความปวดต่าง ๆ ได้ด้วยนะคะ บอกเลยว่ามันดีมาก ปลอดภัยกว่ากินยาไอบูโพรเฟนอีกนะ หันมาเล่นโยคะกันดีกว่าค่ะ เพราะช่วยลดอาการปวดได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอาสนะโยคะ ทั้งท่าโยคะ การทำสมาธิ การหายใจ ทั้งหมดนั่น ช่วยลดความปวดได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการปวดจากโรคมะเร็ง โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (โรคเอมเอส – MS : Multiple sclerosis) ความดันโลหิตสูง ข้ออักเสบ หรือออฟฟิศซินโดรมที่หลายคนเป็นกัน ‎ปวดหลัง ปวดไหล่ ให้โยคะช่วยเหลือเถอะค่ะ

 

เพิ่มความแข็งแรง

เพราะว่าโยคะจัดเป็นการออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อ (strength training) ทั้งตัวเลย เราจึงได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายแบบเต็ม ๆ ยิ่งถ้าฝึกอาสนะโยคะด้วย ก็ยิ่งได้ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย 

 

เพิ่มระดับความสามารถในการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ

ไม่ใช่แค่ช่วยเสริมความแกร่งแบบฝึกกล้ามเนื้อ (strength training) อย่างเดียวนะคะ เพราะว่าโยคะยังทำให้เราฝึกแบบคาร์ดิโอได้นานขึ้นด้วยค่ะ บางคนอาจคิดว่าโยคะที่แสนเชื่องช้าน่าเบื่อ เป็นการออกกำลังกายที่เสียเปล่า แต่บอกเลยว่าโยคะนี่แหละ ที่ช่วยลดอัตราชีพจรขณะพัก เพิ่มความอึดทน และเพิ่มอัตราการดูดซึมออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายให้สูงขึ้นอีกด้วยนะคะ

 

ควบคุมน้ำหนัก

โยคะช่วยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย เพราะเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ต้องเพิ่มโยคะเข้าไปในตารางออกกำลังกายเดี๋ยวนี้เลย นอกจากนี้ อย่าลืมดูแลอาหารการกินให้ดีด้วย แล้วเพื่อน ๆ ก็จะรู้จักตัวเองมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้มั่นใจในตัวเองมากกว่าเดิมด้วยนะคะ

 

ระบบการไหลเวียนดีขึ้น

เมื่อฝึกโยคะ เราจะได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกาย ระหว่างนั้นระบบการไหลเวียนต่าง ๆ ก็จะทำงานและทำงานได้ดีขึ้นด้วย ช่วยให้เลือดนำออกซิเจนไปยังเซลล์ต่าง ๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยนะคะ

 

จิตใจแน่วแน่

โยคะคือปัจจุบัน  ปัจจุบันที่ว่าหมายถึงการจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน อยู่ในปัจจุบัน หายใจอยู่กับปัจจุปัน โยคะจะสอนให้คุณรู้จักและตะหนักถึงร่างกายตัวเอง ทั้งสร้างความแข็งแรงด้านจิตใจให้คุณได้ด้วย แล้วคุณจะมีสมาธิมากกว่าเดิม ร่างกายทำงานสอดประสานกันได้มากขึ้น แถมปฏิกิริยาโต้ตอบต่อสิ่งต่าง ๆ ก็ดีขึ้นด้วย

 

ได้เข้าสังคม

หลัง ๆ มานี้โยคะเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ หากเราไปฝึกโยคะตามสตูดิโอต่าง ๆ ก็มีโอกาสเจอผู้คนมากหน้าหลายตาเลย ลองพูดคุยผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ ๆ ก็อาจช่วยเปิดมุมมองด้านต่าง ๆ ได้มากขึ้นเลยทีเดียวละ

 

หลับได้ดีขึ้น

ถ้าหากว่ามีปัญหาเรื่องการนอน หลับไม่สนิท หลับยาก หรือชอบตื่นมากลางดึกแล้วละก็ ต้องลองมาฝึกโยคะ ทั้งการหายใจ การผ่อนคลาย และท่าทางการฝึกโยคะจะช่วยให้เราหลับง่าย หลับลึก หลับสบายเลย

 

ความสงบภายใน

แค่ตัดสินใจฝึกโยคะ ชีวิตก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น เพราะจะได้ฝึกการทำสมาธิ ค้นพบตัวตนลึก ๆ ค้นพบจิตวิญญาณของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นความสงบทางจิตใจที่ดีเลยค่ะ

เรารับประกันได้เลยว่า โยคะมีประโยชน์มากกว่านี้แน่นอน ที่ยกมา 12 ข้อเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้นนะคะ แค่ 12 ข้อนี้ก็ยั่วยวนไม่ใช่น้อยแล้วใช่มั้ยล่ะ มาฝึกโยคะเลย อย่าให้เสียเวลาค่ะ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: http://fitalika.com/12-reasons-to-do-yoga/
ภาพประกอบจาก: http://thesociallit.com


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก