ครบเครื่องการดูแลสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ การป้องกันโรค การเงินเพื่อสุขภาพ สำหรับวัยทำงาน

-เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต-72-ชม.แรก-รักษาฟรีทุกโรงพยาบาล-1.jpg

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 รัฐบาลได้บังคับใช้หลักเกณฑ์ “การจ่ายค่ารักษาพยาบาลเจ็บป่วยฉุกเฉินใน 72 ชม.แรก” ไว้ให้กับประชาชนทุกคน ไม่ว่าสิทธิสุขภาพไหนก็ตาม บัตรทอง ประกันสังคม สิทธิข้าราชการ หรือสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เมื่อ “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต” ต้องได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ในโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือจุดเกิดเหตุมากที่สุด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หลังจาก 72 ชม. ต้องย้ายไปโรงพยาบาลตามสิทธิต่อไป แต่น่าจะมีหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองได้รับสิทธินี้ เลยเอามาบอกกัน

 

ส่วนเงื่อนไขในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีอะไรบ้าง? จะแบ่งตามความรุนแรง 3 ระดับ คือ

 

1. ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดง)

  •  เข้ารักษาที่โรงพยาบาลไหนก็ได้ ทั้งรัฐเอกชนที่ใกล้ที่สุด
  • ไม่ต้องสำรองจ่าย 72 ชม.แรก
  • ถ้าต้องการรักษาเกิน 72 ชม. ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาหลังจากนั้นไปก่อน แล้วค่อยไปเบิกทีหลัง โดยจะเบิกค่ารักษาได้ 2 กรณี คือ
    • กรณียังไม่พ้นวิกฤต และไม่สามารถย้ายไปโรงพยาบาลรัฐได้ เบิกได้ 50% ของที่จ่ายไป
    • กรณีพ้นวิกฤตและย้ายไปโรงพยาบาลรัฐได้ แต่ไม่มีเตียงรองรับ เบิกได้ 50% ของที่จ่ายไป 8,000 บาท

 

2. ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน (สีเหลือง)

  • เบิกค่ารักษาพยาบาลใน 72 ชม.แรกได้ 50% ของเงินที่จ่ายไป แต่ไม่เกิน 8,000 บาท
  • หลังจาก 72 ชม.แรก ถ้าไม่ย้ายไปโรงพยาบาลตามสิทธิ ต้องจ่ายเอง

 

3. ผู้ป่วยไม่ฉุกเฉินรุนแรง (สีเขียว)

  • เบิกค่ารักษาพยาบาลใน 72 ชม.แรกได้ 50% ของเงินที่จ่ายไป แต่ไม่เกิน 8,000 บาท
  • หลังจาก 72 ชม.แรก ถ้าไม่ย้ายไปโรงพยาบาลตามสิทธิ ต้องจ่ายเอง

 

ทุกกรณี สามารถเบิกค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าอวัยวะเทียม และอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค ได้ในอัตราของทางราชการ ไม่รวมการนัดมาตรวจ หรือการนัดมาทำแผล หากพ้นวิกฤตและย้ายไปยังโรงพยาบาลรัฐได้ แต่ปฏิเสธการย้าย ผู้ป่วยจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังพ้นวิกฤตเอง

ซึ่งเราจะรู้ว่าเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินประเภทไหน ต้องผ่านการพิจารณาจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติก่อน ถึงจะเบิกใช้สิทธิได้  ส่วนจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นการ “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต” รึเปล่า จะมีการติดป้ายนี้ไว้หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล เพื่อให้ญาติผู้ป่วยทราบเป็นการเบื้องต้น

เรื่องเหล่านี้เป็นเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรารู้ไว้ก็ไม่เสียหาย จะได้ไม่ต้องเสียสิทธิแล้วมาเสียดายทีหลัง แต่ยังไงก็คิดว่า ถ้ามันไม่ทำให้เราเดือดร้อน หรือลำบากเกินไป การซื้อประกันอุบัติเหตุ หรือประกันสุขภาพไว้ ก็สามารถทำให้เราสบายใจไปได้ระดับนึง เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาจริง ๆ จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลมากนัก

 

แหล่งที่มา: www.moneybuffalo.in.th
ภาพประกอบจาก:  www.lifespan.org


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก