ครบเครื่องการดูแลสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ การป้องกันโรค การเงินเพื่อสุขภาพ สำหรับวัยทำงาน

-และสารต้านอนุมูลอิสระ-1.jpg

อนุมูลอิสระ

อนุมูลอิสระ (Free radical) เป็นอะตอมหรือโมเลกุล ที่มีอิเล็กตรอนไม่เป็นคู่ (unpaired electron) อย่างน้อย 1 ตัวโคจรรอบวงนอกสุด ซึ่งอะตอมหรือโมเลกุลประเภทนี้ เกิดขึ้นจากกระบวนการต่าง ๆในการดำรงชีวิต ทั้งจากปัจจัยภายในร่างกาย เช่น การเผาผลาญอาหาร กระบวนการสร้างพลังงาน การหายใจระดับเซลล์ กลไกการป้องกันตัวเองของร่างกายจากเชื้อโรค และปัจจัยภายนอก เช่น การสูบบุหรี่ การสัมผัสกับแสงแดด การสัมผัสรังสี การรับประทานอาหารที่มีน้ำมัน อาหารปิ้ง ย่าง เผาที่ไหม้ เป็นต้น

 

สารต้านอนุมูลอิสระ

ร่างกาย มีการป้องกันการสะสมของอนุมูลอิสระ อยู่ 2 วิธี  วิธีแรก จากการที่ร่างกาย มีการสร้างเอนไซม์หรือกลไก เช่น เอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant enzymes) ขึ้นมาควบคุม โดยเป็นกลไกในการเปลี่ยนอนุมูลอิสระ ให้กลายเป็นน้ำ วิธีที่สอง การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหารที่รับประทาน เช่น วิตามินอี เบ้ตาแคโรทีน แอนโทไซยานิดิน (Anthrocyanidin) สารประกอบโฟลีฟีนอล รวมถึงโคเอนไซม์คิวเท็น (Coenzyme Q10) เป็นต้น

 

ผลเสียกรณีไม่สมดุล

ปริมาณอนุมูลอิสระ ที่สมดุล มีส่วนช่วยทำลายสิ่งแปลกปลอม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ในกรณีเกิดความไม่สมดุลระหว่างการเกิดกับการกำจัดหรือการป้องกันการสะสมของอนุมูลอิสระ เช่น ร่างกายต้องสัมผัสแดดเป็นประจำ พฤติกรรมรับประทานอาหารปิ้งจนไหม้ หรือเจ็บป่วย ชรา จนกลไกการป้องกันเสื่อมลง ทำให้มีการสะสมของสารต้านอนุมูลอิสระมากขึ้น จนกลายเป็นสารพิษที่สามารถทำร้ายร่างกาย โดยทำให้ร่างกาย มีความเสี่ยงจากการที่เนื้อเยื่อต่าง ๆ เยื่อหุ้มเซลล์ รวมถึง DNA ถูกทำลาย และนำไปสู่โรคในหลายระบบ เช่น โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคทางสมองและระบบประสาท เช่น Parkinson และ Alzheimer โรคเกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อ มะเร็ง รวมถึงความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ เช่น ความยืดหยุ่นของผิวหนัง

 

เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ

แหล่งข้อมูล :
  1. ผศ. ดร. พิมพ์เพ็ญ พรเฉลิมพงศ์. ศ. เกียรติคุณ ดร. นิธิยา รัตนาปนนท์. ศูนย์เครือข่ายข้อมูลอาหารครบวงจร. “อนุมูลอิสระ” (ระบบออนไลน์) แหล่งที่มา : pharm.swu.ac.th (15 กุมภาพันธ์ 2561)
  2. ดร. อธิป สกุลเผือก. “อนุมูลอิสระ และสารต้านอนุมูลอิสระ” (ระบบออนไลน์). แหล่งที่มา : ccpe.pharmacycouncil.org (15 กุมภาพันธ์ 2561)
  3. แหล่งที่มา : dna.kps.ku.ac.th (15 กุมภาพันธ์ 2561)
.

ภาพประกอบจาก :www.yourhealthsupport.in

 


-เพื่อชะลอวัยและเพื่อสุขภาพ.jpg

การนอน เพื่อชะลอวัยและเพื่อสุขภาพ ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการเรียน การทำงาน หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ จนลืมการพักผ่อนที่เพียงพอ และมักไม่คำนึงถึงความสำคัญของการนอนหลับ เพราะคิดว่าเป็นเพียงแค่กิจกรรมหนึ่งที่ต้องทำในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ในทางกลับกันการนอนหลับที่ไม่เพียงพออาจส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมานอกจากนั้นยังมีผลทำให้อารมณ์ไม่คงที่ และมีสมาธิในการทำงานที่สั้นลง อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อผิวพรรณและทำให้แก่ก่อนวัยอีกด้วย

 

การนอนหลับมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายและผิวพรรณอย่างไร

การนอนหลับหมายถึง สภาวะที่ร่างกายตัดการรับรู้ต่อของสิ่งแวดล้อมและโดยปกติระหว่างการนอนหลับร่างกาย
จะไม่มีการเคลื่อนที่ คนเราใช้เวลาถึงหนึ่งในสามของแต่ละวันไปกับการนอนหลับ ถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่ดีที่สุด อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังหรืออวัยวะที่สึกหรอของเราและยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนของร่างกายด้วย นอกจากนี้ยังมีสาระสำคัญต่าง ๆ ที่ร่างกายหลั่งออกมาในช่วงระยะเวลาดังกล่าว เช่น สารเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญหลายอย่างเช่น ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตและที่สำคัญสารนี้ยังมีหน้าที่ควบคุมการนอนหลับอีกด้วย ถ้าคนเราอดนอนหรือนอนหลับไม่เพียงพอก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายรวมทั้งผิวพรรณด้อยลง ทั้งนี้มีสาเหตุจาก

  1. ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง โดยการอดนอนจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานหนักขึ้นซึ่งเลือดจะมีเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นและเม็ดเลือดขาวเหล่านี้จะสลายตัวในเวลาต่อมาจึงทำให้ความสามารถของร่างกายในการต้านทานต่อเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสเสียไป
  2. ระบบจัดเก็บความทรงจำหรือระบบประสาทจะมีประสิทธิภาพลดลง โดยอวัยวะที่สำคัญคือ ฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) จะทำหน้าที่ถ่ายโอนข้อมูลที่เรียนรู้ในระหว่างวันเข้าสู่ความทรงจำระยะยาวซึ่งอวัยวะชิ้นนี้จะทำงานตอนที่เรานอนหลับเท่านั้นและจะทำงานได้ดีหากร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
  3. อารมณ์เครียด และเปลี่ยนแปลงได้ง่ายโดยไม่มีเหตุผล มีอาการง่วงนอนหรือรู้สึกไม่สดชื่นตลอดทั้งวัน
  4. ระบบย่อยอาหารผิดปกติ โดยร่างกายจะต้องใช้เวลามากขึ้นถึง 40 เปอร์เซนต์เพื่อจัดการกับระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต และการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงนาน ๆ จะทำให้แก่เร็ว
  5. หากเราอดนอนนาน 1 สัปดาห์ หรือนอนวันละ 4 ชั่วโมงโดยประมาณร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นในการควบคุมปริมาณกล้ามเนื้อและไขมันน้อยลงทำให้ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้น
  6. หากคนเรานอนไม่ถึงวันละ 8 ชั่วโมง ร่างกายก็จะผลิตสารเลปติน (Leptin) น้อยลงซึ่งเลปตินมีบทบาทในการควบคุมความอยากอาหาร เพราะฉะนั้นยิ่งเราอดนอน เลปตินก็จะถูกผลิตออกมาน้อยลงทำให้เรามีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น เช่นอยากทานขนมหวาน และอาหารมัน ๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการควบคุมและลดน้ำหนักได้
  7. สูญเสียโอกาสที่ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ในขณะหลับ ซึ่งโกรทฮอร์โมนจะช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์ โดยการสร้างสมดุลระบบการเผาผลาญอาหาร และช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ดังนั้น หากขาดฮอร์โมนชนิดนี้ผิวหนังก็จะหย่อนคล้อยและเหี่ยวย่นได้
  8. ในด้านของผิวหนังสารเมลาโทนินเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องเซลล์ผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระต่าง ๆ และสารเมลาโทนินจะถูกสร้างมากที่สุดในเวลากลางคืนขณะที่เรานอนหลับ ถ้าเราอดนอนหรือนอนน้อยก็จะทำให้มีการสร้างสารนี้ลดลง ส่งผลให้เกิดการอักเสบหรือภูมิแพ้ของผิวหนังได้ง่ายขึ้น

เทคนิคในการช่วยให้นอนหลับสบายเพื่อสุขภาพร่างกายและผิวพรรณที่ดี

การนอนเพื่อชะลอวัยและเพื่อสุขภาพ

  1. จัดตารางเวลาการนอนให้เหมาะสมและเป็นเวลา ซึ่งความต้องการในการนอนหลับของคนเราขึ้นอยู่กับช่วงอายุหรือวัย ยิ่งอายุน้อยยิ่งต้องการนอนมากและความต้องการนอนหลับสำหรับผู้ใหญ่โดยทั่วไปแล้วประมาณ 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากนี้ช่วงเวลาเข้านอนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะฮอร์โมนและสารต่าง ๆ ที่จำเป็นในการก่อให้เกิดสุขภาพร่างกายและผิวพรรณที่ดีจะผลิตเป็นเวลาตามที่ร่างกายกำหนด เวลาที่แนะนำให้ควรเข้านอนไม่ควรจะเกิน 4 ทุ่มของแต่ละคืน
  2. สร้างบรรยากาศในห้องนอนให้เหมาะสม เช่น ห้องนอนควรจะเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน อุณหภูมิในห้องต้องเย็นพอดีและควรจะปิดไฟให้มืด นอกจากนี้ไม่ควรนำอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เข้าไปไว้ในห้องนอนเช่น คอมพิวเตอร์ หรือโต๊ะทำงานจะทำให้เรารู้สึกกังวลตลอดเวลาจนเกิดอาการนอนไม่หลับ
  3. ควรเลือกหมอนและเตียงนอนให้เหมาะสมกับสรีระของร่างกาย รวมทั้งหมั่นเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนหรือนำมาซักทุกอาทิตย์เพื่อจะได้ช่วยลดการสะสมของฝุ่นและไรซึ่งอาจทำให้ผิวหน้าอ่อนแอ เกิดสิว และอาจเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น
  4. หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายร่างกายก่อนนอน เช่น การอาบน้ำอุ่น ฟังเพลงจังหวะสบาย ๆ หรือการนั่งสมาธิซึ่งช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดรฟีน(Endorphine) ออกมา ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและช่วยให้นอนหลับได้สบายยิ่งขึ้น
  5. ท่านอนหงายเป็นท่านอนที่ดีต่อสุขภาพเพราะเป็นท่านอนที่ไม่มีอะไรมากดทับหน้าอกช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้อย่างคล่องตัวที่สุด เมื่อนอนหงายกระดูกสันหลังจะได้รับการรองรับจากที่นอนทำให้สามารถวางตัวอยู่ในแนวธรรมชาติได้ดีที่สุด (ยกเว้นผู้ป่วยหรือสตรีมีครรภ์) นอกจากนี้ท่านอนหงายจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ดีที่สุดเพราะการนอนตะแคงหรือการนอนคว่ำนาน ๆ จะทำให้เกิดแรงกดทับซึ่งก่อให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า
  6. กดจุดบริเวณใบหน้าก่อนนอนด้วยการใช้ปลายนิ้วนวดวนเป็นวงกลมไปเรื่อย ๆ ตามหัวคิ้ว ขมับ ร่องจมูก คาง และมุมปาก ช่วยให้การนอนหลับสบายและหลับสนิทขึ้น
  7. กลิ่นของน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ น้ำมันหอมระเหยจากลาเวนเดอร์ จะช่วยให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายและช่วยให้การนอนหลับสบายยิ่งขึ้น
  8. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลม เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว ทำให้นอนหลับได้ยาก จึงแนะนำให้ดื่มชาคาโมมายด์อุ่นๆ หรือนมอุ่นๆ ก่อนนอน เพื่อช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น แต่ไม่ควรดื่มน้ำมากก่อนเข้านอนเพราะอาจทำให้ต้องตื่นกลางดึกบ่อย ๆ เพื่อมาเข้าห้องน้ำ นอกจากนี้อาหารจำพวกมันเทศ เผือก กลอย ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต และผลิตภัณฑ์โฮลเกรนต่างๆ ช่วยให้ร่างกายผลิตสารเซโรโทนิน (serotonin) ทำให้นอนหลับสบาย

เอกสารอ้างอิง
• สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาชีววิทยา. สาระน่ารู้เกี่ยวกับการนอนหลับ. ตุลาคม 2553.

 

ผู้เขียน : ดร. นิตยา ตรีศิลป์วิเศษ และ รศ. ดร. พิมลพรรณ พิทยานุกุล
ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
แหล่งที่มาจาก : http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge
ภาพประกอบจากจาก : อินเทอร์เน็ต

 


-re.jpg

หนุ่ม ๆ คนไหนที่ช่วงนี้อยากจะฟิตหุ่นให้กล้ามหนาบึกบึน พยายามเข้ายิมทุกวันก็แล้ว ยกเหล็กหนัก ๆ ทุกวันก็แล้ว ทำทุกอย่างตามคำแนะนำครบถ้วน แต่ไม่ยักจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง เรามาดูวิธีที่จะช่วยให้เพิ่มกล้ามกันเถอะครับ

แบรด โชเอนเฟลด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทักษะกีฬา ทำการศึกษาเรื่องนี้ให้กับหนังสือ Sports Medicine บอกว่าการเล่นแบบปกติ อาจจะทำให้ร่างกาย กล้ามเนื้อของคุณดูแน่น แต่ถ้าอยากเห็นกล้ามเนื้อขยายใหญ่ คุณจะต้องเล่นเซ็ตนึงให้นานกว่า 30 วินาที เพื่อให้มัดกล้ามของหลั่งสารไฮโดรเจนอิออน ซึ่งมีภาวะทำให้กล้ามเนื้อเป็นกรด และจะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตโปรตีนและฮอร์โมนที่สำคัญในการกระตุ้นการขยายของกล้ามเนื้อและอีกหนึ่งเคล็ดลับดี ๆ ก็คือ เรื่องอาหารการกินครับ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่จะมีอาหารที่ควรรับประทานเป็นพิเศษ เพื่อช่วยเร่งในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

 

อาหารที่ควรรับประทานเป็นพิเศษ

  1. แอปเปิ้ล ผลไม้แสนวิเศษที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพกล้ามเนื้อ แถมยังอุดมด้วยสารเควอซิทินซึ่งช่วยด้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อที่อ่อนล้าจากการฝึกหนัก ๆ โหด ๆ แถมด้วยไฟเบอร์ที่ปรับระบบทางเดินอาหารให้ดีขึ้น ลดการดูดซึมไขมันเข้าพุงได้เป็นอย่างดี
  2. ไข่ สำคัญทั้งในช่วงการเพิ่มกล้ามและช่วงคงสภาพกล้ามเนื้อไม่ให้ตกหล่นหายไปเหมาะ สำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนัก ไข่ขาวดูจะเป็นเพื่อนแท้ได้ดี สำหรับเวลาฝึกหนักแนะนำให้ทานไข่ขาวหลังออกกำลังกาย 1 – 3 ฟอง เพื่อป้องกันการเผากล้ามเนื้อ หรือสักหนึ่งฟองตอนเช้า จะช่วยให้คุณมีพลังมากขึ้นและคุมอาหารได้ดีในระหว่างวัน
  3. กาแฟ หากคุณกำลังมองหาเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มพลังให้กล้ามเนื้อ ให้นึกถึงกาแฟสักแก้วทันทีครับ เพราะคาเฟอีนในกาแฟหอม ๆ จะช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อคุณเรียกพละกำลังออกมาได้มากขึ้น ระหว่างออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังช่วยลดความปวดล้าของกล้ามเนื้อ และทำให้กล้ามเนื้อโหลดได้นานยิ่งขึ้น
  4. อัลมอนด์ แหล่งโปรตีนสร้างกล้าม คนส่วนใหญ่นึกถึงแต่เนื้อสัตว์กันหมด จริง ๆ แล้วอัลมอนด์เป็นตัวเลือกเร่งการเบิร์นได้อย่างเหลือเชื่อ ป้องกันไขมัน พอกพุง รสชาติก็เยี่ยม เหมาะมากเวลาเบื่อ ๆ อาหารโปรตีนจืดชืด ไร้รสชาติ แต่แนะนำให้ทานวันละประมาณ 1 ถ้วยชาเล็กพอนะครับ เพราะว่ามันมีไขมันไม่น้อย ซึ่งอาจทำให้แคลอรีเกินได้
  5. กล้วย อาหารสร้างกล้ามนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเนื้อ นม ไข่นะครับ กล้วยก็ให้พลังงานได้ และทำให้คุณมีแรงในการฟิตกล้ามเนื้อได้มากยิ่งขึ้น พลังงานในกล้วยแม้จะมีคาร์โบไฮเดรตมาก แต่ก็เป็นกลุ่มดูดซึมช้า และยังมีโพแทสเซียมสูง ทำให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวไวขึ้นอีกด้วยครับ จึงเหมาะมาก ๆ ทั้งทานก่อน และหลังเข้าฟิตเนสครับ
  6. โยเกิร์ต ถือเป็นอาหารว่างยอดนิยมสำหรับหนุ่มฟิตเนสทุกคน โยเกิร์ต 1 ถ้วย อุดมด้วยธาตุสังกะสีซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้ดีขึ้น และสำคัญต่อการฟื้นฟูกล้ามเนื้อมาก ๆ ที่สำคัญคือ ร่างกายจะไม่สมดุลเด็ดขาดถ้าคุณยังขาดสังกะสี แนะนำว่าควรเลือกชนิดไขมันต่ำหรือปราศจากไขมัน หรือไขมันศูนย์ก็ได้ครับ เสริมทั้งโปรตีน แร่ธาตุ และแบคทีเรียที่เป็นมิตรกับลำไส้ของคุณครับ
  7. แซลมอน ยุคนี้อาหารเสริมน้ำมันปลามีเต็มบ้านเต็มเมือง ดูทีวียังตามมาเลยครับ ทั้งนี้เพราะงานวิจัยใหม่ ๆ ค้นพบประโยชน์มากมาย ทั้งหัวใจ ผิวพรรณ และกล้ามเนื้อ เพราะโอเมก้า -3 ช่วยลดการอักเสบของกล้ามเนื้อที่ฝึกหนัก ช่วยการเผาไขมัน ป้องกันไขมันแทรกพุงได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนที่สำคัญต่อการเผาผลาญอีกด้วย ยิ่งบ้านเราสมัยนี้ นิยมอาหารญี่ปุ่นมาก ๆ ทานปลาดิบแซลมอนเสริมสุขภาพ เสริมกล้ามเนื้อด้วยนะครับ ยิ่งถ้าได้คนเสิร์ฟเป็นสาวญี่ปุ่นเซ็กซี่ล่ะก็ หนุ่มอย่างเราทานไม่เหลือแน่ครับ
  8. อบเชย หรือชินนามอน เวลาดื่มกาแฟลองโรยชินนามอนเพิ่มกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟแก้วโปรดสิครับ เจ้าเครื่องเทศตัวนี้ช่วยเร่งการเผาผลาญ และเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดีไปพร้อม ๆ กันครับ ทั้งยังช่วยควบคุมความหิวได้อีกด้วย
  9. ชาเขียว สำหรับคนดื่มกาแฟไม่ได้ไม่ต้องเสียใจ เพราะคุณมีชาเขียวเป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้กัน ชาเขียว 1 ถ้วย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศที่ช่วยให้เซลล์ไม่แก่ เร่งการเผาไขมัน และกล้าม

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณจะเริ่มใช้วิธีหักโหมนี้ ให้พึงระวังว่า อาจะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของอาการกล้ามเนื้อฉีกขาดได้ ให้เล่นอย่างหักโหมในเซ็ตท้าย ๆ จนรู้สึกว่าแขน ขา ขยับแถบไม่ได้ ก็แสดงว่าเพียงพอแล้วครับ และที่สำคัญดูแลและควบคุมเรื่องอาหารการกินด้วยจะดีมากเลยครับ…สุดท้ายนี้เวลาเราออกกำลังกายเล่นกีฬาหนัก ๆ ก็อย่าลืมดูแลน้องชายไม่ให้เกิดความอับชื้นด้วยนะครับ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Men’s Health.(2010).เข้ายิมทุกวัน..แต่ไม่ได้ผลซักที.2 มีนาคม 2558.
แหล่งที่มา : http://www.blog.bondsociety.com

ภาพประกอบจาก : http://www.blog.bondsociety.com


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก