ครบเครื่องการดูแลสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ การป้องกันโรค การเงินเพื่อสุขภาพ สำหรับวัยทำงาน

-เรื่องง่ายๆ-ประโยชน์มหาศาล-ทำเลย.jpg

มีคำกล่าวที่ว่า คนเราใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับการหาเงิน และใช้เวลาในบั้นปลายเอาเงินที่หามาเพื่อรักษาตัว วันนี้เราจึงมาทบทวน ความสำคัญในการตรวจสุขภาพกันค่ะ

 

ทำไมต้องตรวจสุขภาพ

ต้องเข้าใจก่อนว่า ร่างกายของเรานั้น มีการเสื่อมไปทุก ๆ วันตามธรรมชาติอยู่แล้ว นอกจากนั้นการใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์บางอย่าง ก็ทำให้ร่างกายเสื่อมเร็วขึ้น เสี่ยงต่อโรคหลาย ๆ โรคที่จะเป็นในอนาคต การตรวจสุขภาพจึงเป็นการตรวจหาความผิดปกติบางอย่าง ที่อาจเป็นสัญญาณของโรคที่ซ่อยอยู่ หรือภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคในอนาคต ซึ่งหากไม่ได้รับการตรวจสุขภาพ และปล่อยไว้นานเป็นแรมปี เมื่อถึงคราวที่โรคกำเริบ หรือแสดงอาการ ก็อาจมีความรุนแรงมาก มีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการสูญเสีย

 

ดังนั้นการตรวจสุขภาพจึงทำเพื่อ

  • ค้นหาโรคที่ซ่อนอยู่ในตัว โดยที่ยังไม่มีอาการผิดปกติให้เห็น ตัวอย่างโรคดังกล่าว ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มะเร็งเต้านมในระยะแรก มะเร็งปากมดลูกในระยะแรก เป็นต้น ซึ่งตามหลักการรักษาแล้ว การตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะแรก หรือระยะที่มีความรุนแรงน้อย จะรักษาโรคได้ทัน ไม่ลุกลาม ลดภาวะแทรกซ้อน บางโรคอาจรักษาให้หายขาดได้
  • หาปัจจัย หรือพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค ซึ่งเจ้าตัวอาจไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา เช่น กรรมพันธุ์ การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ การบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม การขาดการ
    ออกกำลังกาย การมีอารมณ์เครียด ภาวะน้ำหนักเกิน หรือลงพุง สภาพแวดล้อม หรือการทำงานที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วย หรือความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในตัว เช่น ความดันลูกตาสูง ซึ่งทำให้เกิดโรคต้อหิน ไวรัสตับอักเสบบีในเลือด ซึ่งทำให้เกิดโรคตับอักเสบเรื้อรัง และมะเร็งตับ เมื่อพบว่ามีปัจจัย หรือพฤติกรรมเสี่ยงอะไร หมอที่ตรวจก็จะให้การดูแล และให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวป้องกันไม่ให้เกิดโรคตามมา ที่สำคัญผู้ที่มีภาวะเสี่ยงควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วย

 

การตรวจสุขภาพที่จำเป็นและเหมาะสม เป็นอย่างไร

เป็นการตรวจสุขภาพตามหลักวิชาการโดยแพทย์ และบุคลากรสาธารณสุข เน้นการซักถามประวัติสุขภาพ และการตรวจร่างกายเป็นหลัก ส่วนการตรวจทางห้องปฏิบัติการหรือการตรวจแล็บ จะทำเฉพาะในรายที่มีข้อมูลหลักฐานบ่งชี้แล้วว่า มีความจำเป็นเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อค้นหาโรคและปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค และนำไปสู่การป้องกัน การส่งเสริมสุขภาพ และการบำบัดรักษาอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ การตรวจสุขภาพที่จำเป็นและเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเสมอไป

 

ใครบ้างที่ควรรับการตรวจสุขภาพ

ทุกคน ทุกวัย ควรได้รับการตรวจสุขภาพ เริ่มง่าย ๆ ด้วยการตรวจสุขภาพเบื้องต้นซึ่งสามารถทำได้ที่บ้าน โดยใช้เครื่องมือบางประเภท เช่น เครื่องชั่งน้ำหนัก สายวัด เป็นต้น ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาการตรวจสุขภาพที่จำเป็นและเหมาะสม กระทรวงสาธารณสุข ได้แบ่งการตรวจป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ตรวจสุขภาพเด็กและวัยรุ่น (อายุ 0 – 18 ปี) ตรวจสุขภาพวัยทำงาน (อายุ 18 – 60 ปี) ตรวจสุขภาพวัยผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) และตรวจสุขภาพหญิงตั้งครรภ์ แต่ละกลุ่มมีแนวทางการตรวจสุขภาพที่แตกต่างกัน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข http://healthcheckup.in.th/article/8
ภาพประกอบจาก: www.freepik.com 

 


clean-food-re.jpg

เทรนด์อาหารคลีน/อาหารคลีนเพื่อสุขภาพ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากผู้คนหันมาใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน รวมถึงคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก หรือต้องการลดน้ำหนักเร่งด่วนโดยไม่ต้องพึ่งยาลดน้ำหนัก การสั่งอาหารคลีนเพื่อสุขภาพแบบ Delivery จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนหนุ่มสาวออฟฟิศ อาหารคลีน Delivery ที่จัดส่งตามพื้นที่ให้บริการเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน กำลังเป็นที่นิยมรวมถึงอาหารคลีนส่งทั่วประเทศ ผู้ที่สนใจใช้บริการสั่งอาหารคลีน แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือกร้านไหน จึงจะได้รับอาหารที่มีประโยชน์ และคุ้มค่าที่สุด เรามี 10 แนวทางเลือกร้านอาหารคลีน Delivery เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่สนใจตัดสินใจให้เลือกร้านได้

 

อาหารคลีนเพื่อสุขภาพ แบบ Delivery  เลือกอย่างไร 

1. มีจุดประสงค์ที่แน่ชัดในการเลือกทานอาหารคลีนเพื่อสุขภาพ

จุดประสงค์ของการเริ่มต้นการกินอาหารคลีน คือ อะไร คนที่กินต้องตอบได้ เช่น อยากกินอาหารคลีนเพื่อสุขภาพ ให้ร่างกายปลอดสารพิษ หรือกินอาหารคลีนเพราะต้องการควบคุมน้ำหนัก ลดไขมัน ควบคุมแคลอรี่ หรือกินอาหารคลีนเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อสำหรับเล่นฟิตเนส เป็นต้น เมื่อรู้จุดประสงค์แล้วจะช่วยให้ตามหาอาหารคลีนประเภทที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

 

2. การดูรีวิว หรือประสบการณ์การเปิดร้านจำหน่ายอาหารคลีน

ส่วนใหญ่อาหารคลีนเหล่านี้จะไม่ค่อยมีหน้าร้าน สามารถสั่งซื้อได้ช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ แฟนเพจ เป็นต้น ซึ่งเราสามารถเข้าไปดูประวัติการซื้อขายอาหารคลีน คอมเมนต์ของลูกค้าที่ผ่านมา หรือดูภาพอาหารที่จำหน่าย เพื่อประกอบการตัดสินใจ

 

3. เลือกประเภทอาหารคลีนที่ต้องการ

ยกตัวอย่างเช่น ชื่นชอบอาหารคลีนแบบเมนูไทย ๆ หรือชื่นชอบอาหารคลีนแบบเมนูฝรั่ง ซึ่งแต่ละร้านอาหารคลีน จะมีเมนูที่สลับกันไปตามสัปดาห์ รายเดือน เพื่อไม่ให้จำเจ บางร้านมีแต่เมนูอาหารคลีนแบบไทย ๆ หรือบางร้านเน้นเป็นอาหารคลีนสไตล์ฝรั่ง ซึ่งเราสามารถดูจากเว็บไซต์ที่ให้บริการสั่งอาหารคลีน

 

4. วัตถุดิบออแกนิก มีคุณภาพ ได้ประโยชน์ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

อาหารคลีนส่วนใหญ่มีกรรมวิธีการปรุงที่ประณีต จำเป็นต้องเลือกวัตถุดิบให้ได้คุณภาพสูงสุด เช่น ผักบางร้านใช้วิธีปลูกเองโดยไม่ใช้สารเคมี ปลูกแบบออแกนิก หรือใช้น้ำมันงาแทนน้ำมันหมู หรือไม่ใส่สารกันบูด ผงชูรส ผงก้อน ใช้หญ้าหวานแทนการใส่น้ำตาล เป็นต้น วิธีการเหล่านี้เป็นการลดปริมาณแคลอรี่ในเมนูอาหารเพื่อให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมในการกินอาหารคลีน เพื่อการควบคุมน้ำหนัก

 

5. ราคา

วิธีการสั่งซื้อจะแจ้งราคาเป็นแบบกล่อง แบบคอร์สรายสัปดาห์ หรือรายเดือน พร้อมรายการเมนูอาหารคลีน ซึ่งเราต้องศึกษาว่ามีรายการอาหารคลีนอะไรบ้าง หากเป็นเนื้อสัตว์หมู หรือไก่ ราคาจะถูกกว่าเนื้อสัตว์ประเภทปลา กุ้ง หรือผักที่ใช้สามารถหาซื้อได้ง่าย หรือต้องปลูกเองจึงจะได้คุณภาพ ราคาที่ขายจะต้องคุ้มค่ากับเมนูอาหารคลีนที่แจ้งไว้ ไม่ควรตั้งราคาขายที่สูงจนเกินไป

 

6. วิธีการสั่งซื้อและการจัดส่ง

การสั่งซื้อที่รวดเร็ว เข้าใจง่าย สามารถเลือกได้ตามใจ จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี ขั้นตอนที่ยุ่งยากจะทำให้เราเลือกร้านอื่น ยิ่งไปกว่านั้น ควรเลือกร้านอาหารคลีนที่สามารถจัดส่งในพื้นที่ที่เราอยู่ได้ ไม่เสียค่าบริการมาก หรือบางร้านมีโปรโมชั่นสั่งซื้อขั้นต่ำจึงจะจัดส่งฟรีในพื้นที่ที่บริการ จะสร้างความสะดวก ความประทับใจเรามากขึ้น

 

7. ประสบการณ์ปรุงอาหารคลีนของเชฟ

การปรุงอาหารคลีน ผู้ปรุงอาหารจำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการทำอาหารประเภทนี้ เนื่องจากการทำอาหารคลีนมีขั้นตอนที่ต้องระวัง วัตถุดิบที่ใช้ไม่เหมือนการปรุงอาหารตามปกติ รสชาติต้องถูกปากลูกค้าในวัตถุดิบที่สามารถใช้ได้

 

8. การแนะนำ หรือให้ความรู้ในการกินอาหารคลีน

สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นกินอาหารคลีนนั้น อาจยังไม่มีความรู้ในการเลือกคอร์ส หรือระยะเวลาในการกินอาหารคลีน เจ้าของร้าน หรือเชฟต้องให้คำแนะนำ หรือใส่ใจในคำพูดของลูกค้า เช่น ลูกค้าแพ้วัตถุดิบทะเล ทางร้านต้องจำและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความผิดพลาด และให้คำแนะนำในการเลือกอาหารคลีนได้

 

9. อาหารคลีนปรุงสดใหม่

เราควรเลือกร้านอาหารคลีนที่มีการปรุงอาหารสดใหม่ทุกวัน เพื่อให้ได้อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ควรเลือกร้านที่ทำอาหารในปริมาณมาก ๆ ครั้งเดียว และแบ่งขายจนหมด ซึ่งอาจทำให้อาหารคลีนสูญเสียประโยชน์ นานวันอาจบูดและเสียได้ หรือหากเลือกเป็นคอร์สรายเดือน การจัดส่งอาหารควรแบ่งส่งเป็นรายวัน หรือรายสัปดาห์ เพื่อให้ได้อาหารปรุงสดใหม่ตลอด

 

10. เมนูอาหารคลีนได้รับสารอาหารครบถ้วน

เมนูอาหารคลีนที่ร้านคิดเมนูขึ้นมา จะต้องได้รับคุณประโยชน์ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ 5 หมู่ คือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ และวิตามิน ในแต่ละมื้อนอกจากการได้รับจำนวนแคลอรี่ที่เหมาะสมแล้ว ต้องได้รับสารอาหารครบถ้วนเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: https://topbestbrand.com/แสนดีคลีนฟู๊ด/
ภาพประกอบจาก: www.cleanfoodcrush.com


.jpg

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันนี้เราใช้ชีวิตอยู่หน้าจอกันเป็นส่วนใหญ่ และเทคโนโลยีใกล้ตัวนี่แหละคือตัวการที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้อย่างคิดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ที่แสงจ้าเกินไป การจ้องจอ ท่าทางการนั่งทำงานนาน ๆ หรือแม้แต่เชื้อโรคต่าง ๆ ที่เราได้รับมาจากอุปกรณ์เหล่านี้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นสิ่งของข้างกายเราแทบตลอดเวลา

 

พฤติกรรมเสี่ยงที่มาจากเทคโนโลยี

  1. จ้องจอคอมพิวเตอร์
    การจ้องจอส่งผลกระทบต่อเราได้หลากหลายแบบ โดยส่วนมากมักทำให้เกิดอาการแสบตา น้ำตาไหลเมื่อจ้องจอมากเกินไปเนื่องจากตาแห้ง นอกจากนั้นยังมีอาการเมื่อยตา ปวดหัว สาเหตุสำคัญเกิดจากการที่ภาพในจอคอมพิวเตอร์นั้นกระพริบตลอดเวลาโดยที่เราไม่ทันสังเกต ทำให้เรากระพริบตาน้อยลงอย่างไม่รู้ตัวจนตาเกิดอาการแห้ง ซึ่งอาการนี้จะนำไปสู่ความเสื่อมขอสายตาในที่สุด คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากจอคอมพิวเตอร์ก็อาจส่งผลต่อระบบประสาททำให้รู้สึกคลื่นไส้และนอนไม่หลับได้
  2. นั่งผิดท่า
    การทำท่าเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ขณะทำงาน การนั่งหรือนอนเล่นแท็บเล็ตท่าเดิม ๆ หรือการใช้นิ้วเลื่อนจอภาพไปมานานหลายชั่วโมง ผลของการทำท่าเดิมซ้ำ ๆ นี้จะไม่แสดงเด่นชัดนัก แต่จะสะสมไปเรื่อยจนเป็นมากแล้วจึงเกิดอาการขึ้นมา เช่น การปวดคอ ปวดไหล่ ปวดข้อมือ ในระยะเริ่มแรกเมื่อได้พักแล้วอาการอาจจะหายไป แต่หากไม่เปลี่ยนพฤติกรรม อาการก็จะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ พักแล้วไม่หาย ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายหรือขั้นรุนแรงสุดคือ ปวดอยู่ตลอดเวลา ที่จริงอาการเหล่านี้อาจเกิดได้กับทุกส่วนของร่างกายที่ค้างไว้ท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ อย่างไม่ถูกสุขลักษณะ อาการขั้นร้ายแรงที่เป็นกันมาก ก็คือ อาการอักเสบ ชา และเจ็บปวดมาก จนต้องเข้ารับการผ่าตัดต่อไปอีก
  3. เจ็บข้อมือ
    อาการเจ็บข้อมือที่เกิดจากเส้นประสาทข้อมืออักเสบ (Carpal tunnel syndrome) เกิดขึ้นมากในกลุ่มคนทำงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องกระดกข้อมือค้างไว้เกือบจะตลอดเวลา ทั้งคลิกเม้าส์ เลื่อนเม้าส์ ประกอบกับมีการกดทับตรงข้อมือ ทำให้เกิดการเสียดสีกันในช่องทางเดินของเส้นประสาท ทำให้เส้นประสาทบริเวณข้อมืออักเสบ อาการนี้รักษาเบื้องต้นได้ด้วยการกินยาแก้ปวดและพักการใช้ข้อมือ แต่ส่วนใหญ่ถ้ากลับไปทำพฤติกรรมแบบเดิมอีกก็จะกลับมาปวดอีกจนเรื้อรัง หากเป็นมากแพทย์จะต้องฉีดสเตียรอยด์บริเวณข้อมือเพื่อลดการอักเสบโดยตรงและหากเป็นหนักกว่านั้นก็อาจถึงกับต้องผ่าตัด
  4. ความอดทนต่ำ
    อีกอาการหนึ่งที่อาจไม่ส่งผลทางกายภาพชัดเจนนัก คือ การที่พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีส่งผลให้ผู้ใช้มีความอดทนต่ำลง เพราะคุ้นเคยกับการทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น ค้นคว้าข้อมูล ติดต่อสื่อสารด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว หรือแม้แต่เกิดอาการหงุดหงิดกระวนกระวายเมื่อขาดอุปกรณ์เทคโนโลยีที่คุ้นเคย เช่น คอมพิวเตอร์เสีย ลืมเอาโทรศัพท์มือถือมาจากบ้านหรือแม้แต่แท็บเล็ตแบตเตอรี่หมด นอกจากนั้นการเสพย์ติดโซเชียลมีเดียจนเคยชิน ยังทำให้เรามีอิสระในการทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น จนบางครั้งลืมขีดจำกัดของตนเองไป เช่น การดูซีรี่ส์จนดึกทั้งที่วันรุ่งขึ้นต้องไปเรียนหนังสือ หรือคุยแชตกับแฟนจนไม่ได้นอนทั้งคืน ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมลงโดยไม่รู้ตัวในที่สุด

 

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างของสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเราไม่รู้ตัวทั้งสิ้น ดังนั้น ควรระลึกไว้เสมอว่าต้องรู้เท่าทันพฤติกรรมของตนเองและจำไว้ว่าเทคโนโลยีอาจมีทั้งผลกระทบแง่บวกและลบ ขึ้นอยู่กับที่เราจะปรับตัวและป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียจนเกินเยียวยา แม้กิจวัตรประจำวันของเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี แต่เราสามารถเลือกที่จะไม่ป่วยเพราะเทคโนโลยีได้

 

เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
แหล่งที่มา :  www.reo14.moe.go.th
ภาพประกอบจาก : www.pixabay.com


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก