สาว ๆ ทั้งหลาย ช่วงเวลาที่เราได้พูดคุย ปรึกษาคุณหมอนั้น มีน้อยและก็จะน้อยลงเรื่อย ๆ แล้วถ้าคุณหมอมีเวลามากขึ้น เขาก็อาจจะบอกกับคุณถึงวิธีการดูแลสุขภาพผู้หญิง อย่างที่สูตินรีเวชผู้เชี่ยวชาญแนะนำเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ดังนี้
สุขภาพผู้หญิงดูแลง่าย ๆ
- ขจัดความเครียด
ปัญหาใหญ่ที่สุดที่พบในผู้ป่วยส่วนใหญ่คือ การที่ทุกคนมีสิ่งที่ต้องจัดการมากเกินไปและพวกเขาต้องการทำทั้งหมดให้ออกมาดีในทุก ๆ เรื่อง ความเครียดนั้นมีผลกระทบที่สำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นจากภาวะมีบุตรยากซึ่งเป็นที่มาของความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และโรคหัวใจ ดังนั้นลองหาวิธีที่เหมาะกับคุณในการลดความเครียดและนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของคุณเอง - เลิกอดอาหาร
การกินเพื่อสุขภาพไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเลิกดื่มไวน์ หรือลืมเค้กช็อคโกแล็ตสุดโปรดตลอดชีวิตของคุณ กุญแจที่สำคัญคือ การกินในปริมาณที่พอเหมาะ กินโปรตีน ไขมันชนิดดี คาร์โบไฮเดรตชนิดดี และอาหารจำพวกกากใย - อย่ากินแคลเซียมมากเกินความจำเป็น
การได้รับแคลเซียมมากเกินความจำเป็นทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไตและโรคหัวใจอีกด้วย ผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี ควรได้รับแคลเซียมเพียงวันละ 1,000 มิลลิกรัม ในขณะที่ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ควรได้รับแคลเซียมประมาณ 1,200 มิลลิกรัมต่อวันโดยดูดซึมผ่านสารอาหาร อาหาร 3 ประเภทที่มีปริมาณแคลเซียมสูง คือ นม ปลาแซลมอน และอัลมอนด์ - ทำมากกว่าแค่การออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการเต้นของหัวใจ
ในหนึ่งสัปดาห์ผู้หญิงเราควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 3 – 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ผสมผสานการออกกำลังกายทั้งแบบกระตุ้นหัวใจ (Cardio) สลับกับการใช้น้ำหนักตัวเป็นตัวช่วย (Weight-bearing) เพื่อช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจ โรคมะเร็งและโรคเบาหวาน นอกจากนี้การออกกำลังกายยังส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพจิตของผู้หญิงเรา - วางแผนการมีบุตร
ในช่วงอายุ 30 ปีปลาย ๆ หรือแม้แต่ในช่วงอายุเริ่ม 40 ปีต้น ๆ มักไม่พบปัญหาจากการตั้งครรภ์ แต่ความพร้อมของด้านร่างกายในการมีบุตรจะเริ่มถดถอยเมื่อเริ่มมีอายุ 32 ปีขึ้นไป ดังนั้นหากคุณวางแผนจะมีลูก ลองปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับทางเลือกต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น การฝากไข่ เป็นต้น - คุณค่าของการคุมกำเนิด
บางครั้งการคุมกำเนิดอาจทำให้คุณถูกมองแง่ลบ แต่การคุมกำเนิดไม่เพียงแต่จะป้องกันไม่ให้ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรแล้ว จากการศึกษาพบว่ายังสามารถลดความเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งรังไข่ได้ เช่นเดียวกัน นั่นคือการทำให้ประจำเดือนมาตามรอบปรกติ - พบแพทย์เป็นประจำทุกปี
ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 21 ปี ทุก ๆ 3 ปี ควรแน่ใจว่าคุณได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap test) สำหรับช่วงวัย 30 – 65 ปี ทุก ๆ 5 ปี คุณควรได้รับการตรวจทั้งคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและเชื้อ HPV (HPV test) เมื่ออายุเกินกว่านี้อาจไม่จำเป็นต้องตรวจถ้าแพทย์ระบุว่าคุณมีความเสี่ยงต่ำ แต่หากคุณยังคงมีกิจกรรมทางเพศและมีความเสี่ยงสูงในการติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์ คุณควรตรวจหาเชื้อหนองในเทียม (Chlamydia) เชื้อหนองในแท้ (Gonorrhea) และเชื้อซิฟิลิส (Syphilis) เป็นประจำทุกปี และควรตรวจหาเชื้อเอชไอวีอย่างน้อยหนึ่งครั้งและถ้าคิดว่าเสี่ยงก็ควรตรวจบ่อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้นห้ามลืมตรวจสุขภาพประจำปีเด็ดขาด เพราะแพทย์จำเป็นต้องประเมินปัญหาอื่น ๆ อีกด้วย เช่น การติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้น การคุมกำเนิด และปัญหาทางเพศอื่น ๆ - เพศสัมพันธ์ที่ดีช่วยได้
เซ็กส์ช่วยลดความเครียดและอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้ ถ้าคุณรู้สึกมีความสุขไปกับมัน แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าเพศสัมพันธ์ยังไม่ดีพอจากปัญหาต่าง ๆ เช่น น้ำหล่อลื่นแห้ง หรือรู้สึกเจ็บ ลองปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีแก้ - พักผ่อนให้มากขึ้น
แต่ละคนมีการนอนหลับหรือการพักผ่อนที่แตกต่างกัน แต่ถ้าคุณมีปัญหาไม่อยากตื่นนอนตอนเช้า เหนื่อยง่าย หรือไม่มีสมาธิ เป็นสัญญาณว่าคุณอาจจะพักผ่อนไม่เพียงพอ มากไปกว่านั้นงานวิจัยล่าสุดพบว่า การพักผ่อนน้อยอาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้น - การประเมินประวัติทางพันธุกรรม
ปัจจุบันแพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และโรคเรื้อรังต่าง ๆ จากประวัติทางพันธุกรรมของบุคคลในครอบครัว ลองปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ และพิจารณาหาวิธีปเพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดโรคดังกล่าวได้
เพศหญิงเป็นเพศที่มีรายละเอียดในการดูแลสุขภาพที่ค่อนข้างแตกต่างกันไป นั่นเพราะส่วนหนึ่งมาจากฮอร์โมนและประจำเดือนของเราในแต่ละรอบอายุ อย่างไรก็ดีวิธีการดูแลสุขภาพผู้หญิงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ยากจนเกินไป เพียงแค่เราใส่ใจและหมั่นสังเกตด้วยความรอบคอบ ก็สามารถมีสึขภาพสมบูรณ์แข็งแรงพร้อมรับมือกับทุกช่วงวัยที่ก้าวเข้ามา
เรียบเรียงโดย: กองบรรณาธิการ
แหล่งที่มา: www.webmd.com
ภาพประกอบ: www.pixabay.com