ครบเครื่องการดูแลสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ การป้องกันโรค การเงินเพื่อสุขภาพ สำหรับวัยทำงาน

10เคล็ดลับ.jpg

ยุคนี้เป็นยุคของคนรักสุขภาพ เราจะเห็นได้ว่าช่วงนี้มีงานวิ่งมาราธอน วิ่งการกุศล เต็มไปหมด หลายคนอยากวิ่ง แต่ไม่รู้มาก่อนว่า การเตรียมตัวก่อนวิ่งสำคัญมากแค่ไหน เรามาเริ่มเตรียมตัวกันให้พร้อมก่อนออกไปวิ่งด้วย 10 เคล็ดลับ เตรียมตัวก่อน วิ่งมาราธอน กันดีกว่า…

 

1. เตรียมตัวโหลดคาร์โบ

การโหลดคาร์โบ คาร์โบที่ว่านี้คือ คาร์โบไฮเดรต คือจะต้องกินอาหารพวกเเป้ง เตรียมไว้เพื่อให้ร่างกายและกล้ามเนื้อเปลี่ยนเอาเเป้งเป็นไกลโคเจนไปสะสมไว้ตามส่วนต่าง ๆ ตามเเขน ตามขา จะได้ดึงพลังงานเหล่านี้มาใช้ในการวิ่งนั่นเอง

 

2. ห้ามกินของเเปลก

อย่ากินอาหารแสลง ที่อาจทำให้ระบบในร่างกายรวนได้ เช่น ส้มตำ หรืออาหารรสจัด ที่ทำให้ท้องเสีย ท้องผูก อาหารเป็นพิษ หรือถึงขั้นป่วย แต่ขนมปังที่ขายตามห้างหรือมินิมาร์ท กินได้นะคะ เเต่ใครที่ย่อยพวกนมและชีสไม่ได้ก็ควรระวังเอาไว้

 

3. ดื่มน้ำมาก ๆ

ปรับสมดุลในร่างกายด้วยการดื่มน้ำ ซึ่งสังเกตได้จากการดูสีปัสสาวะ ถ้าปัสสาวะสีเข้มนี่แสดงว่าขาดน้ำ ควรจะต้องดื่มเกลือแร่เพื่อให้ร่างกายได้เติมเต็มดีกว่าขาด อ๊อ ! เเละที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการดื่มเเอลกอฮอล์ทุกชนิดค่ะ เพราะแอลกอฮอล์เป็นตัวการที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำเลยแหละ

 

4. พักผ่อนให้เพียงพอ

ก่อนวิ่งควรพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วง 1 – 2 วันก่อนวิ่ง ไม่ควรออกกำลังกายแบบหักโหมเด็ดขาด แนะนำว่าก่อนวิ่งให้ไปไปพักผ่อนเพลิดเพลิน เพื่อให้ร่างกายได้ตื่นตัวดีกว่าค่ะ

 

5. ถ้ารู้สึกเครียด ตื่นเต้น ให้วิ่งเบา ๆ

หลายคนมักตื่นเต้นก่อนออกวิ่ง เลยทำให้ร่างกายไม่พร้อม และวิธีการลดความเครียดหรืออาการตื่นเต้นนี้ คือ การวิ่งนั่นแหละค่ะ แต่เป็นการวิ่งเบา ๆ เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง แค่วิ่งเบา ๆ ซัก 20 นาที แต่อย่าวิ่งนานกว่านั้นมากเพราะจะทำให้ร่างกายล้าได้

 

6. จัดการเสื้อผ้า หน้าผม เล็บเท้าให้เรียบร้อย

จะวิ่งทั้งทีต้องเตรียมตัวให้พร้อม อย่างการ ตัดผม มัดผมให้เรียบร้อย ไม่รุ่มร่ามเวลาวิ่ง ไม่งั้นอาจทำให้เรารู้สึกรำคาญและเหนื่อยง่าย ซึ่งเป็นอุปสรรค์ในการวิ่ง และควรทาวาสลีน ตามพวกข้อพับเพื่อลดการบาดเจ็บที่เกิดจากการเสียดสี

 

7. สำรวจอุปกรณ์ให้พร้อม

ในวันที่ไปรับ BIB หรือที่ภาษาฝรั่งเรียกว่าวันรับ Race Packet ต้องสำรวจแผ่น BIB หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “BIB” (หมายเลขประจำตัวของนักวิ่ง) ให้ดี ถ้าไม่มีระวังจะอดวิ่งนะจ๊ะ

 

8. ศึกษาเส้นทางการวิ่ง

ก่อนออกวิ่งควรศึกษาเส้นทางการวิ่งให้ดีซะก่อน ไม่งั้นหลงไปนี่แย่เลยทีเดียว ซึ่งข้อมูลนี้ก็หาได้ง่าย ๆ ตามเว็บไซต์หรือเฟสบุคของกิจกรรมนั้น ๆ สิ่งที่ควรจะต้องศึกษา คือ จุด Start/Finish ว่าอยู่ตรงไหน มี Runner’s welfare รึเปล่า อย่างเช่น จุดรับฝากของ ห้องน้ำ จุดรับน้ำอาหาร เป็นต้น

กำหนดการวิ่ง ปล่อยวิ่งกี่โมง cutoff กี่โมง จุดให้น้ำให้อาหาร เริ่มที่กิโลเมตรที่เท่าไหร อย่าลืมเรื่องห้องน้ำและจุดพยาบาลด้วยล่ะ

 

9. วางเเผนการเดินทาง

นอกจากศึกษาเส้นทางวิ่งแล้ว การเดินทางเพื่อไปวิ่งก็สำคัญ เพราะจะต้องกะเวลาการเดินทางไปให้ทันเวลาและถ้าหากงานนั้นจัดในต่างจังหวัด ก็จะได้จัดจองหาที่พักเผื่อเอาไว้ล่วงหน้าได้ทันและสะดวกในการเดินทาง คนที่มีรถส่วนตัว ก็ต้องดูว่าเส้นทางที่เดินทางจะมีการปิดจราจรช่วงไหน เวลาไหน สามารถใช้เส้นทางไหนในการเดินทางได้บ้าง

 

10. สร้างเเรงบันดาลใจ

ก่อนวิ่งควรสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง ว่าเรามาวิ่งเพื่ออะไร และเราได้อะไรจากการวิ่ง การหาหนังสือ ฟังเพลงหรือดูหนังเพื่อสร้างเเรงบันดาลใจด้านบวกจะช่วยให้เราไม่รู้สึกท้อแน่นอน การสร้าง Motivation เป็น 1 ในเทคนิคการ เตรียมตัวก่อนวิ่งมาราธอน

หลายคนอาจจะคิดว่าการเตรียมตัวไม่สำคัญ สำหรับใครที่ไม่เคยเตรียมตัวก่อนวิ่งแล้วไปวิ่งจะรู้ดีว่า การเตรียมตัวเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก และไม่ใช่สำหรับเรื่องนี้เรื่องเดียว เพราะการเตรียมตัวสำคัญสำหรับทุกเรื่องเสมอไม่ว่าจะทำอะไร

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.allthaievent.com.(2010).10 เคล็ดลับ เตรียมตัวก่อน วิ่งมาราธอน.22 สิงหาคม 2559.
แหล่งที่มา : http://www.allthaievent.com/article/102/
ภาพประกอบจาก : www.allthaievent.com


...แบบง่ายๆ.jpg

น้ำมีประโยชน์ต่อชีวิตคนเราอย่างยิ่ง ทั้งนี้ 4 ใน 5 ของน้ำหนักมนุษย์ประกอบไปด้วยน้ำ เราอาจอยู่โดยขาดอาหารได้นานกว่าการอยู่โดยขาดน้ำ  ประโยชน์ของน้ำที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ ทำให้ผิวพรรณผ่องใส ไม่แห้งกร้าน ดวงตาสดใสไม่ขุ่นมัว ทำให้ดูเปล่งปลั่งอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ นอกจากนั้น น้ำยังทำให้สมองคิดประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเครียด และช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานได้อย่างปกติ ออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ในร่างกายได้อย่างเต็มที่ อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้สมบูรณ์ และยังบรรเทาอาการต่าง ๆ เช่นปวดหัว ท้องผูกได้โดยไม่ต้องพึ่งยา

 

แต่มีบ่อยครั้งที่เราไม่รู้ตัวว่ากำลังดื่มน้ำน้อยเกินไป และดื่มแค่ในตอนที่รู้สึกกระหายน้ำเท่านั้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ที่สูบบุหรี่ โทษของการดื่มน้ำน้อยเกินไปนั้น ส่งผลมากมายกว่าที่คิด อาทิ ผิวหนังจะแห้งกร้าน ดวงตาไม่สดใส สมองประมวลผลช้าลง ปัสสาวะสีเข้มและมีกลิ่นแรง และยังนำไปสู่โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ โรคไต หรือแม้แต่อาการไม่พึงประสงค์ เช่น เป็นสิวอักเสบ ท้องผูก ผิวแตกแห้งกร้าน ประจำเดือนมาไม่ปกติ หากรู้ตัวว่ามีอาการเช่นนี้ รู้ได้เลยว่าเป็นอาการของการดื่มน้ำน้อยเกินไป วิธีแก้ไขคือพยายามดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 6 – 8 แก้ว นำเอาขวดน้ำมาวางไว้ใกล้ ๆ มือและคอยจิบอยู่เรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน การดื่มนมสดไม่ถูกนับรวมว่าเป็นการดื่มน้ำ แม้จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบ เพราะนมสดจัดอยู่ในกลุ่มของอาหาร นอกจากนั้นแล้วคุณผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือคนป่วยเป็นไข้หวัด จะต้องการน้ำในปริมาณมากกว่าคนปกติด้วย

 

กรณีที่รู้สึกว่าการดื่มน้ำเปล่าเฉย ๆ ยังไม่น่าดึงดูดใจพอ ลองใช้วิธีนี้ข้างล่างนี้ เพื่อช่วยให้การดื่มน้ำเป็นเรื่องน่าสนุกและมีสีสันยิ่งขึ้น

  • เพิ่มสีสันลงในแก้วน้ำ โดยหั่นผลไม้สด เช่น สับปะรด สตรอว์เบอร์รี ส้ม มะนาว หรือแม้แต่ผักอย่างแตงกวา ใส่ลงไปแก้วเพื่อเพิ่มสีสันและรสชาติที่แปลกใหม่
  • ดื่มน้ำทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ เพื่อเติมน้ำกลับคืนให้ร่างกายทุกครั้งที่น้ำถูกขับออกไป
  • จิบน้ำก่อนกินอาหารทุกมื้อ วิธีนี้จะทำให้กินอาหารน้อยลงด้วย แต่อย่าเผลอดื่มมากไปเพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจางได้
  • ใช้แอพพลิเคชั่นในสมาร์ตโฟนช่วยเตือน ซึ่งเดี๋ยวนี้มีมากมายให้เลือก เช่น Daily Water และ Carbodroid เป็นต้น
  • หากระบอกใส่น้ำหรือแก้วสวย ๆ แบบที่ชอบมาใส่น้ำดื่มวางไว้ใกล้ ๆ ตัว
  • ถ้ารู้สึกว่าน้ำเปล่ารสชาติจืดชืดไป ลองหาน้ำผลไม้ที่ชอบมาเจือจางในน้ำดื่มเพื่อเพิ่มรสชาติสักนิดก็ยังได้
  • ใช้กระติกหรือแก้วน้ำที่มีขีดบอกระดับน้ำ จะได้รู้ทันทีว่าดื่มน้ำไปมากแค่ไหนแล้ว

 

วิธีเหล่านี้จะช่วยสร้างบันดาลใจในการดื่มน้ำในแต่ละวันให้มากขึ้นได้ ทั้งยังให้ความรื่นรมย์และดีต่อสุขภาพไปพร้อม ๆ กัน แถมยังเป็นวิธีที่ไม่ยากเลย ลองพยายามดื่มน้ำในแต่ละวันเพิ่มขึ้นอีกสักนิด แล้วคุณจะได้รับประโยชน์มหาศาลจากน้ำอยู่ใกล้ตัวได้อย่างเต็มที เพื่อชีวิตที่สดใสและสุขภาพที่แข็งแรงของคุณนั่นเอง

 

เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
แหล่งข้อมูล : www.self.com
ภาพประกอบ : www.unsplash.com


12-ข้อง่ายๆ-ทำต่อเนื่องสุขภาพดีเลิศ.jpg

หลาย ๆ คนมองเห็นเพื่อน ๆ หรือคนที่มีสุขภาพดี ด้วยความชื่นชม และแน่นอนว่านั่นเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้เป็นแบบอย่างของคนรักสุขภาพ มาถึงคำถามที่ว่าทำอย่างไรให้ทุกคนมีโอกาสเป็นคนสุขภาพดีถึงดีเลิศได้ มาดูเรื่องง่าย ๆ ที่คนมีสุขภาพดีส่วนใหญ่ทำกัน

 

1. ทานอาหารมื้อเช้าเป็นประจำ

การรับประทานอาหารเช้า จะช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานได้ดีตลอดทั้งวัน มีผลการศึกษาที่ระบุว่า คนวัยทำงานที่ทานอาหารเช้าเป็นประจำ จะทำงานได้คุณภาพดีตลอดทั้งวัน ขณะที่เด็กวัยเรียนที่ทานอาหารเช้าเป็นประจำ จะสามารถทำคะแนนสอบได้ดีอีกด้วย

 

2. ต้องวางแผนการกิน

การวางแผนการกินว่าควรรับประทานอะไร ตอนไหน ที่ไหน เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการกินให้เป็นประโยชน์กับร่างกายต้องกินให้ถูกหลัก รู้ประเภทของสารอาหารที่ควรได้รับ เช่น ช่วงลดน้ำหนักต้องไม่เน้นแป้งไขมัน เปลี่ยนมาเป็นโปรตีนและวิตามินนอกจากนี้การวางแผนการกินยังช่วยให้คุณประหยัดเวลา และประหยัดเงินอีกด้วย

 

3. ดื่มน้ำเปล่าอยู่เสมอ อย่างน้อยต้องให้เพียงพอ

ดื่มน้ำเปล่าอยู่เสมอ ร่างกายปกติต้องการใช้น้ำในปริมาณหนึ่ง การดื่มน้ำให้เพียงพอจึงมีแต่ข้อดี รวมถึงการและช่วยลดความอ้วนอย่างไรก็ตามต้องเลี่ยงน้ำหวาน แต่ถ้าติดความหวานของน้ำ ก็ลองเติมผลไม้ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นส้ม แตงโม ในเครื่องดื่มแทน

 

4. ออกกำลังกายเป็นประจำ

คนสุขภาพดี มักจะมีพฤติกรรมการออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังเลิกงาน อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หากใครยังไม่สามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยควรหาเวลายืดเส้นสายในระหว่างวัน เช่น จอดรถให้ห่างจากร้านอาหารเพื่อให้มีระยะทางเดิน ใช้บันไดแทนการใช้ลิฟท์ รวมถึงการเลือกทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดเหงื่อ ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าสมองตื่นตัวสดชื่นได้

 

5. ใช้โซเชียล มีเดียแต่พอดี

การติดโซเชียล มีเดีย ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ หลายๆประเทศ เช่น เกาหลีใต้จัดว่าเป็นโรคที่ส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิต ทางเลือกสำหรับคุณคือ วางโทรศัพท์มือถือ แล้วเปลี่ยนมาใช้เวลากับการเดินเล่น อ่านหนังสือเล่มโปรด หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพแทน

 

6. เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ควรเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาสมองให้ยังคงดีอยู่เสมอ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร การหาเวลาเข้าอบรมทักษะต่างๆ เช่น การเขียนอย่างสร้างสรรค์ การถ่ายรูป การดูนก หรือฝึกเรียนภาษาใหม่ๆ ล้วนเป็นวิธีกระตุ้นให้สมองทำงาน และป้องกันโรคอัลไซเมอร์ในอนาคตได้

 

7. ไม่สูบบุหรี่

คนสุขภาพดี ต้องไม่สูบบุหรี่ การตัดสินใจเลิกบุหรี่จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยร่างกายคนเราจะมีระบบซ่อมแซมที่รวดเร็ว สมมุติคุณสูบบุหรี่มวนสุดท้ายแล้วตัดใจเลิก ใน 20 นาทีต่อมา ร่างกายจะตอบสนองด้วยการมีอัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิตที่ดีขึ้นในทันที

 

8. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับให้เพียงพอของแต่ละคน เป็นสิ่งจำเป็น นอกจากการช่วยเรื่องสมาธิและความจำที่ดีขึ้นแล้ว ในระยะยาวยังช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและช่วยให้สมองมีความพร้อมในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆด้วย

 

9. บริหารกล้ามเนื้อเป็นประจำ

คนสุขภาพดี มักจะมีเวลาในการเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ กิจกรรมดังกล่าวจะช่วยให้ร่างกายสมส่วน หัวใจทำงานแข็งแรง และมวลกระดูกหนาแน่นขึ้น

 

10. รับแสงแดดอยู่เสมอ

กิจกรรมกลางแจ้งที่เหมาะสม จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินดีจากแสงแดด ซึ่งมีประโยชน์ต่อกระดูก หัวใจและอารมณ์ มีผลศึกษาพบว่า การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ช่วยให้มีร่างกายและจิตใจที่สงบ ทำให้มีความสุขมากกว่าคนในเมือง ที่แวดล้อมไปด้วยตึกระฟ้า

 

11. รักษาสมดุลให้ร่างกาย

ไม่ว่าจะในวัยหนุ่มสาว หรือวัยผู้ใหญ่ คนสุขภาพดีมักจะมีกิจกรรมที่เป็นการฝึกฝนทักษะในการรักษาความสมดุลของร่างกาย อาทิ โยคะ ไทเก็ก ไทชิ ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดการบาดเจ็บของร่างกายจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน รวมถึงการลดความเสี่ยงต่อการหกล้ม กระดูกหัก อีกทั้งยังเสริมสร้างความมั่นใจด้วย

 

12. มีสมาธิเพียงพอ

คนสุขภาพดีมักจะมีการฝึกสมาธิ หยุดแสงสีเสียงไว้ชั่วคราว มีผลศึกษาของการฝึกสมาธิว่า หากร่างกายได้ทำสมาธิติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 8 สัปดาห์ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมองในส่วนของอารมณ์ การเรียนรู้ และความทรงจำที่ดีขึ้น ทั้งนี้ฝึกสมาธิไม่ได้จำกัดแค่การนั่งสมาธิ แต่หมายรวมถึงการทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยความจดจ่อ ไม่เลื่อนลอย

 

การเป็นคนมีสุขภาพที่ดีไม่ใช่เรื่องยากเลย ทั้ง 12 ข้อข้างต้นล้วนแต่เป็นคำแนะนำให้มีกิจกรรมที่สามารถทำได้จริงในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใดก็ตาม หากรักตัวเอง อย่าลืมดูแลตัวเอง ให้มีสุขภาพกายและใจที่ดีเลิศอยู่ตลอดเวลา ผลลัพธ์ที่ได้คือรางวัลชีวิต ร่างกายแข็งแรง สดใส ดูเยาว์วัย ห่างไกลโรคร้าย.

 

เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
แหล่งข้อมูล : www.webmd.com
ภาพประกอบ : www.freepik.com


Change-life-drinking-water.jpg

เปลี่ยนชีวิตให้สดใสด้วยการ “ดื่มน้ำ” เคยไหมที่บางครั้งอยู่ดี ๆ ก็รู้สึกหัวตื้อคิดอะไรไม่ออก สายตาพร่ามัว ผิวพรรณหยาบกระด้าง ริมฝีปากแห้งแตกระแหง ดวงตาไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง และรู้สึกง่วงอยู่ตลอดเวลา เมื่ออาการเหล่านี้เกิดกับคุณโดยเฉพาะคุณผู้หญิง อย่าได้มองข้ามอาการเหล่านี้เด็ดขาด เพราะนั่นอาจเป็นสิ่งบ่งบอกว่าร่างกายคุณกำลังขาดน้ำ ซึ่งในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้คุณติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะได้ มารู้กันว่าการ “ดื่มน้ำ” สำคัญอย่างไร 

 

ตามปกติแล้วปริมาณน้ำที่คุณผู้หญิงควรดื่มในแต่ละวัน อยู่ที่ 8 – 10 แก้ว สำหรับบางคนที่ติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะบ่อย ๆ สามารถดื่มมากกว่านั้นได้ นอกจากนั้น ผู้ที่ติดเชื้อควรเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อย ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความอับชื้น โดยเฉพาะหลังจากออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ (Probiotics) และปัสสาวะทุกครั้งหลังจากมีเพศสัมพันธ์ด้วย

 

รู้ได้อย่างไรว่า “ดื่มน้ำ” อย่างพอเหมาะ  

ประโยชน์ของการดื่มน้ำให้เพียงพอสำหรับร่างกายมีมากมาย สิ่งที่คุณจะรับรู้ได้อย่างชัดเจนด้วยตัวเอง ก็คือ เมื่อดื่มน้ำสะอาดเพียงพอสำหรับร่างกาย สมองจะสามารถคิด ประมวลผลได้เร็วขึ้น จดจำและเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น มีสมาธิในการทำงานเพิ่มขึ้น  ผิวพรรณจะเปล่งปลั่งสุขภาพดี เรียบเนียน ไร้ริ้วรอยเหี่ยวย่น ดูอ่อนกว่าวัย ปวดศีรษะน้อยลง เรียกได้ว่า เปลี่ยนชีวิตให้สดใสด้วยการดื่มน้ำเลยจริงๆ

ส่วนผลลัพธ์ที่อาจมองเห็นไม่ชัดด้วยตาเปล่า เช่น การทำงานของตับและไตจะดีขึ้น ร่างกายจะขับถ่ายของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจวาย เลือดข้น โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง

นอกจากนั้น น้ำยังทำให้ข้อต่อแข็งแรง มีความยืดหยุ่นมากขึ้น การดื่มน้ำมาก ๆ ยังช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย เพราะน้ำจะช่วยขับของเสียออกจากอวัยวะต่าง ๆ ทำให้ร่างกายสะอาดขึ้น คุณจะมีความอยากกินอาหารขยะน้อยลง และกลิ่นปากจะลดลงด้วย

 

ถ้าดื่มน้ำมากเกิน

ในทางตรงข้าม การดื่มน้ำมากเกินไปก็มีโทษเช่นกัน ลองสังเกตร่างกายของคุณว่า ดื่มแค่ไหนจึงรู้สึกพอ เพราะร่างกายจะมีกลไกที่บอกว่าได้รับน้ำเพียงพอแล้วสำหรับระยะเวลานั้น อย่าฝืนดื่มน้ำมากเกินไป โดยในช่วงอากาศร้อนจัดและรู้สึกกระหาย ควรจิบน้ำที่อยู่ในอุณหภูมิห้องทีละน้อย หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำครั้งละมาก ๆ หรือเย็นจัดร้อนจัด สังเกตปัสสาวะของตนเองอยู่เสมอ ปัสสาวะที่มีสีเหลืองเข้มอาจบ่งบอกว่าคุณกำลังขาดน้ำก็ได้ ในขณะที่ปัสสาวะสีเหลืองอ่อน คือ สิ่งบ่งบอกว่าคุณดื่มน้ำอย่างเพียงพอแล้ว

อีกปัญหาหนึ่งที่เกิดกับคนจำนวนมาก คือ อาการท้องผูก และการดื่มน้ำสามารถช่วยบรรเทาท้องผูกได้เช่นกัน สาเหตุที่ทำให้คนดื่มน้ำน้อยมักท้องผูก เพราะเมื่อขาดน้ำลำไส้จะไปดึงน้ำออกจากอุจจาระเพื่อรักษาความชุ่มชื้น ทำให้อุจจาระแข็งตัวและขับถ่ายลำบาก วิธีแก้ไขง่าย ๆ เบื้องต้น คือ ลองดื่มน้ำอุ่น ๆ ก่อนนอน 1 แก้ว เพราะน้ำจะไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบย่อยอาหาร และทำให้ลำไส้เคลื่อนตัวได้ดีขึ้น

นอกจากนั้น ผู้ที่ท้องผูกควรรับประทานอาหารจำพวกกากใย ผัก ผลไม้ให้มาก ๆ เป็นนิสัย ขับถ่ายให้เป็นเวลาทุกวัน อย่านอนดึก หรืออดนอน  และเมื่อร่างกายขับถ่ายของเสียได้ดีขึ้นแล้ว ระบบในร่างกายก็มีแนวโน้มที่จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์และเกิดอาการเมาค้างในตอนเช้า น้ำดื่มสะอาดก็สามารถช่วยคุณให้พ้นจากอาการปวดหัวได้เช่นกัน เพราะน้ำมีคุณสมบัติช่วยขับปัสสาวะ หากคืนไหนรู้สึกว่าดื่มหนัก ๆ ก่อนเข้านอนลองดื่มน้ำดู เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาน้ำจะช่วยขับแอลกอฮอล์ที่ตกค้างในร่างกายของคุณออกไป ช่วยให้คุณฟื้นคืนสภาพได้เร็วขึ้น

นอกจากการดื่มน้ำสะอาดแล้ว ผลไม้ต่าง ๆ ที่มีน้ำอยู่มาก เช่น แตงโม สับปะรด สตรอเบอรี่ แคนตาลูป ส้ม หรือแอปเปิล ก็ยังช่วยดับกระหายและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกายคุณได้ด้วย เพียงแค่เลือกรับประทานบ่อย ๆ เป็นนิสัย คุณก็จะมีสุขภาพดีขึ้นและอ่อนวัยขึ้นได้อย่างง่ายดาย

 

เรียบเรียงโดย: กองบรรณาธิการ   
แหล่งข้อมูล: www.mindbodygreen.com
ภาพประกอบ:  www.freepik.com


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก