มะกล่ำตาหนู มีประโยชน์และสรรพคุณอย่างไร
มะกล่ำตาหนู (Abrus precatorius L.) หรือเรียกชื่ออื่น ๆ ว่า กล่ำเครือ กล่ำตาไก่ มะกล่ำเครือ มะแค็ก ไม้ไฟ มะกล่ำแดง เกมกรอม ชะเอมเทศ ตากล่ำ มะขามเถา จัดอยู่ในวงศ์ Papilionaceae มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ คือ เป็นพืชเดียวกับตระกูลถั่ว มีผลเป็นฝัก คล้ายถั่วลันเตา ภายในฝักมี 3 – 5 เมล็ด เมล็ดกลมรียาวขนาด 6 – 8 มม. เมล็ดมีเปลือกแข็ง สีแดงสดเป็นมัน มีสีดำตรงขั้วประมาณ 1 ใน 3 ของเมล็ด
มะกล่ำตาหนูมีประโยชน์และสรรพคุณ คือ
- ใบ ต้มดื่มแก้เจ็บคอ แก้หลอดลมอักเสบ แก้ตับอักเสบ กระตุ้นน้ำลาย ขับปัสสาวะ แก้ปวดบวมตามข้อ ปวดตามแนวเส้นประสาท ตำพอกแก้ปวดบวม แก้อักเสบ แก้จุดด่างดำบนใบหน้า
- เถาและราก ต้มดื่มแก้เจ็บคอ แก้หืด แก้ไอแห้ง แก้หลอดลมอักเสบ กัดเสมหะ แก้ร้อนใน แก้อาเจียน แก้ดีซ่าน ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ
- เมล็ด มีส่วนประกอบสำคัญที่เป็นพิษสูง จึงควรใช้เป็นยาภายนอก โดยการบดผสมกับน้ำมันพืช ทาแก้กลากเกลื้อน ฆ่าพยาธิผิวหนัง แผลมีหนอง บวมอักเสบ และใช้เป็นยาฆ่าแมลง
การใช้ประโยชน์ของมะกล่ำตาหนู ควรระมัดระวังในส่วนของการใช้เมล็ด เนื่องจากมีความเป็นพิษสูง ห้ามใช้เป็นยาภายใน หรือกินเข้าไปเด็ดขาด แค่ปริมาณการกิน 1 – 2 เมล็ด หรือขนาด 0.01 มก./น้ำหนักตัว 1 กก. ก็ทำให้เสียชีวิต และหากเข้าตาก็สามารถทำให้ตาบอดได้ หรือถ้าโดนผิวหนังก็จะทำให้เกิดอาการผื่นคัน เพราะมีสารสำคัญที่มีอยู่ในเมล็ด คือ abrin สารดังกล่าวถ้าอยู่ข้างนอกจะสลายตัวง่ายเมื่อถูกความร้อน แต่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะมีความคงทนในระบบทางเดินอาหาร เมื่อรายใดที่มีการกินเมล็ดเข้าไปแล้ว สารพิษจะเข้าไปทำลายระบบต่าง ๆ ในร่างกาย คือ
-
- ระบบหลอดเลือด ทำให้เกิดการช็อก ความดันโลหิตต่ำ และหัวใจเต้นเร็ว
- ระบบเลือด มีผลต่อเม็ดเลือดแดงโดยตรง ทำให้โลหิตตกตะกอนและสลายตัว
- ระบบทางเดินหายใจ ทำให้ขาดออกซิเจนและเกิดอาการขาดเลือด ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเขียว
- ระบบประสาทส่วนกลาง มีอาการชักกระตุก ประสาทหลอนและมือสั่น
- ระบบกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้เกิดอาการอักเสบที่ลำไส้และกระเพาะอาหารอย่างรุนแรง
- ระบบปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะน้อยลงหรือไม่ปัสสาวะเลย เกิดจากไตหรือท่อปัสสาวะถูกทำลาย
- ระบบตา คอ หู จมูก ตับ มีเลือดออกที่เรตินา เกิดการระคายเคืองที่ตา
- ระบบเมตาบอลิซึม เกิดอาการอาเจียน ท้องเสีย มีเลือดออก ซึ่งอาการต่าง ๆ เหล่านี้ ความรุนแรงอาจเกิดขึ้นมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น ขนาดที่รับประทาน สภาวะร่างกาย และอายุขัยของผู้รับพิษ ดังนั้น เมื่อพบผู้ป่วยต้องรีบนำส่งแพทย์ทันที
ภาพประกอบจาก : en.wikipedia.org